ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับไทย-จีน 25 คน ขณะย้ายฐานกัมพูชาไปเมียนมา
ตำรวจบุกทลายขบวนการขนคนจีน เข้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ไทยเป็นทางผ่าน หลังปราบปรามอย่างหนัก ย้ายฐานปฏิบัติงานจากกัมพูชาไปเมียนมา สามารถจับคนไทย 5 ราย คนจีน 20 ราย เผยใช้คนไทยเป็นทีมขนส่ง พร้อมสับเปลี่ยนทีมไปยังประเทศที่สาม เชื่อมีนายทุนจีนเป็นตัวการใหญ่
ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมแถลงข่าวผลการทลายเครือข่ายขนคนจีนข้ามชาติ เกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวม 5 ครั้ง สามารถจับกุมคนไทย 5 ราย คนจีน 20 ราย
โดยเครือข่ายนี้ จะเป็นการหลอกคนจีนด้วยกันมาทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการกระทำความผิด
แก๊งนี้มีพฤติการณ์กระทำความผิดซ้ำเหมือนกันทุกครั้ง โดยทำเป็นขบวนการตั้งแต่รับตัวคนจีนจากชายแดนไทยผ่านชองทางธรรมชาติริมแม่น้ำโขง บริเวณ จ.มุกดาหาร เข้ามายัง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วสับเปลี่ยนรถ จากนั้นส่งตัวคนจีนให้กับทีมขนคนจีนอีกทีมซึ่งมาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อพาข้ามไปยังประเทศเมียนมา
โดยเครือข่ายขนคนจีนในครั้งนี้ ถูกจับกุมทั้งหมด 5 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม ถึงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจับกุมได้ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร , กาฬสินธุ์ , กำแพงเพชร , พระนครศรีอยุธยา และหนองคาย
โดยครั้งที่สองที่เจ้าหน้าที่จับกุมนั้น อยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เป็นคนจีน 3 ราย โดยให้การว่าถูกหลอกมาทำงานที่ชายแดนเมียนมา พาขึ้นรถยนต์ขับผ่านประเทศเวียดนาม ลาว และเข้าประเทศไทย เพื่อไปส่งต่อยังประเทศปลายทาง แต่เมื่อถึงในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้หลบหนีและขอความช่วยเหลือ ส่วนคนไทยที่พาตัวมานั้นได้หลบหนีไป ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่มีเบาะแสแล้ว อยู่ระหว่างการขออนุมัติหมายจับ
จากการสอบสวนพบว่า ทั้งหมดเป็นเครือข่ายเดียวกัน มีการสลับสับเปลี่ยนทีมในการขนคนจีนในแต่ละครั้ง ส่วนสาเหตุที่มีการย้ายฐานการก่อเหตุนั่นก็เพราะว่า ทางประเทศกัมพูชา มีการกวาดล้างอย่างเข้มงวด จึงทำให้มีการขนย้ายคนออกมาเพื่อพาส่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยคาดว่า จะมีทั้งประเทศเมียนมา และ ประเทศลาว ที่จะถูกใช้เป็นฐานของแก๊ง ส่วนผู้ที่ถูกจับกุมบางรายให้การว่า ถูกหลอกให้ไปทำงานบาร์ หรือ ล่ามแปลภาษา แต่ก็ถูกพาไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ขณะที่มีบางรายทราบดีว่าถูกหลอก แต่ก็ยังยอมเข้าไปทำงานดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ผู้ที่สั่งการอยู่เบื้องหลังเป็นชาวจีน ส่วนคนไทยเป็นเพียงกลุ่มที่ถูกว่าจ้างให้ขนส่งคนเท่านั้น ซึ่งยังไม่ทราบว่า ปลายทาง จะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งใหญ่เพียงแก๊งเดียว หรือ เป็นการขนส่งไปตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อื่นๆ
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และขยายผลเครือข่ายแก๊งนี้ต่อไป
เครือข่ายนี้เป็นการขนคนจีน เพื่อไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นการย้ายฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเดิมที่มีฐานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เป็นประเทศเมียนมา โดยทาง สตม.มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากตำรวจทางหลวง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ และ ศูนย์ปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อเอาข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ในการจับกุม
ในการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะเหมือนกันหมดทั้งโลก แต่ในส่วนของประเทศไทยและ ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการกลับไปหลอกลวงคนจีนด้วยกัน หรือ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทั้งหมดที่จับกุมนั้นอยู่ในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
แต่ในการจับกุมนั้น เป็นในส่วนของการขนส่ง ทาง สตม.มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยอื่นอยู่แล้ว ในการสกัดกั้น รวมถึงการทำงานร่วมกับ PCT ที่มีการปิดกั้นสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ อ.แม่สาย อีกด้วย
ที่ผ่านมา ก่อนมีการกวาดล้างจับกุม มีการขนส่งในลักษณะนี้ วันละ 100 คน แต่ในปัจจุบันมีจำนวนลดลง เหลือเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพราะฝ่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็เพิ่มความระวังไม่ให้ถูกจับด้วยเช่นกัน รวมถึงมีการเดินเท้าที่ไม่ได้ผ่านประเทศไทยด้วย