อดีตปลัดแม่ริม มั่นใจหลักฐานแน่นมัด 'ฌอน' ปมเงินรับบริจาคดับไฟป่าเชียงใหม่
"บุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ " อดีตปลัดแม่ริม เชื่อมั่นหลักฐานแน่นมัด "ฌอน บูรณะหิรัญ" หลังอัยการสั่งฟ้องฌอน คดีรับบริจาคเงินช่วยเหลือไฟป่าเชียงใหม่
วันนี้ (18 ก.ย. 66) จากกรณีที่ นายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ถูกอัยการจังหวัดนนทบุรี สั่งฟ้องในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เรื่องเงินบริจาคช่วยเหลือไฟป่า ใน จ.ใหม่ โดยผู้เสียหายได้รับหนังสือจากศาลและพร้อมที่จะไปเป็นพยานทุกคน ในเอกสารมีการระบุว่า ศาลได้นัดเรียกผู้เสียหายมาเป็นพยาน ในวันที่ 10 ต.ค.นี้ เวลา 13.30 น.
สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.63 "ฌอน บูรณะหิรัญ" ได้โพสต์คลิปไปร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้กับ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยเนื้อหาคลิปบางช่วงบางตอน นายฌอน ระบุว่า "เมื่อกี้ได้เจอท่านประวิตร มันไม่เหมือนที่เราเห็นในรูปภาพที่อยู่ในมีม ที่เขาหลับและภาพจะออกมาแบบดูร้ายหน่อย แต่พอได้เห็นตัวจริง เหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารัก ทำให้ผมนึกออกว่าสิ่งที่เราเห็นในสื่อ เขาก็มีเจตนาที่จะทำให้เราคิดอะไรบางอย่าง อย่าเพิ่งตัดสินใครจนกว่าเราได้เจอตัวเขาจริง ๆ ได้คุยกับเขาและสัมผัสกับเขา"
จากข้อความดังกล่าวทำให้ "ฌอน" ถูกวิพากษ์วิจารณ์และทัวร์ลงอย่างหนัก ลามไปถึงเพจดังเพจหนึ่ง ได้เปิดเผยข้อความจากทีมอาสาร่วมดับไฟป่าที่เชียงใหม่พูดถึงฌอน ตั้งข้อสงสัยกรณีเปิดรับเงินบริจาคดับไฟป่าเชียงใหม่ เนื่องจากทีมดับไฟป่าที่ลงพื้นที่แทบทุกจุด ไม่เคยได้รับสิ่งของอะไรจากฌอนเลย และ มีการขุดว่าในเดือนมีนาคม 2563 ฌอนได้เปิดรับเงินบริจาค ให้คนโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง เพื่อจะนำเงินไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ดับไฟป่า แต่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าตัวจริงได้ออกมาตั้งคำถามว่า แล้วเงินบริจาคอยู่ไหน ฌอนไม่เคยมีการเปิดเผยยอดบริจาค และไม่เคยได้รับสิ่งของจากฌอนเลย
ต่อมา นายฌอนก็ออกมาชี้แจง แต่ยิ่งทำให้เรื่องบานปลาย เพราะเงิน 1 ใน 3 ของยอดบริจาค ถูกนำไปใช้เป็นค่าผลิตสื่อ รวมทั้งนำเงินไปช่วยผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งถูกมองว่าผิดประสงค์ในการขอรับบริจาค ต่อมาตัวแทนกลุ่มเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดับไฟป่า ผู้นำชุมชนในพื้นที่ อ.แม่ริม ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม อ.แม่ริม (ในขณะนั้น) และในฐานะ ประธานสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ได้รวบรวมพยานหลักฐานการโอนเงินของชาวบ้านที่บริจาคเงิน
นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือสอบถามไปยังธนาคารซึ่งนายฌอน เป็นเจ้าของบัญชี และได้ทำหนังสือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอข้อมูลว่าได้รับเงินบริจาคจากนายฌอน หรือไม่ ปรากฏว่าไม่ได้เงินบริจาค จากนายฌอน แต่อย่างใด หลังจากนั้นมีผู้เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริมให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย
และจากการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและการให้ถ้อยคำของผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้เสียหาย, เจ้าหน้าที่และหน่วยงาน จนได้ข้อสรุปหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี 3 ข้อหา ได้แก่ ความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์, พระราชบัญญัติการเรี่ยไร และฉ้อโกงประชาชน
ด้าน นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขา จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว เชื่อมั่นพยานหลักฐานทั้งหมด หลังจากที่มีการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ซึ่งเรื่องดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงินบริจาคจากประชาชนเข้าบัญชีของฌอน ทั้งสิ้นกว่า 1,475,274.79 บาท ซึ่งมีการโอนต่อไปยังบัญชีส่วนตัวของนายฌอน และใช้จ่ายต่างๆ ที่ทำให้เกิดความน่าสงสัย ว่าอาจจะมีการนำไปใช้ไม่ถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค
ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล จนได้ข้อสรุปเป็นที่น่าเชื่อถือได้ จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน ล่าสุด อัยการสั่งฟ้องคดี รวมกันทั่วประเทศแล้ว แม้ข้อหาพระราชบัญญัติการเรี่ยไรจะตกไป แต่ตนมั่นใจว่าจากพยานหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดกับ นายฌอน ได้อย่างแน่นอน