สลด! น้ำป่าไหลหลาก พัดถล่ม อ.เชียงม่วน ปชช.เสียชีวิต 4 ราย-หาย 1 ราย
น้ำป่าไหลหลาก พัดถล่ม อ.เชียงม่วน ประชาชนเสียชีวิต 4 ราย-หาย 1 ราย คอสะพานขาดรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 220 ไร่
วันนี้ (15 ต.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่น้ำป่าไหลหลากเมื่อคืนช่วงเวลา 01.30 น.ถึงเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก โดยในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.หนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ คอสะพานถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และยังมีพื้นที่ทางการเกษตรปลูกข้าวโพดได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นยังพบว่ามีผู้สูญหาย 2 ราย ล่าสุด พบตัวแล้วทั้ง 2 ราย โดยปลอดภัยทั้งคู่ ซึ่งได้หนีน้ำไปอยู่บนดอย
ขณะส่วนในพื้นที่บ้านห้วยก้างปลา หมู่ที่ 13 ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา มีผู้สูญหายจำนวน 5 ราย ล่าสุด พบเป็นศพแล้ว 4 รายโดยเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน 3 ราย และตอนนี้เจ้าหน้าเร่งระดมค้นหาอีก 1 ราย โดยทราบว่าเป็นหนูน้อยอายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น ทั้งนี้กำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุพร้อมทั้งชาวบ้านได้ช่วยกันเข้าทำการค้นหาเนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นป่าลึก
เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทจังหวัดพะเยา ต้องเร่งเข้าทำการซ่อมแซมคอสะพาน บริเวณพื้นที่หมู่ที่หกตำบลหนองหล่มอำเภอดอกคำใต้จังหวัดพะเยาซึ่งเป็นเส้นทางสายดอกคำใต้เชียงม่วนหลังได้รับความเสียหายหนักเนื่องจากเกิดน้ำป่ากัดเซาะทำให้คอสะพานขาดรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องจักรเข้าทำการซ่อมสะพานเพื่อให้แล้วเสร็จอย่างรวดเร็วและให้รถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ขณะที่ทรัพย์สินอย่างอื่นในพื้นที่อำเภอดอกคำใต้ พบว่ามีไร่ข้าวโพดได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง
นายขาว เรืองอินทร์ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้พื้นที่บริเวณน้ำป่าไหลหลาก ระบุว่า น้ำป่าดังกล่าวนั้นได้ไหลบ่าเข้าท่วมเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ซึ่งได้ไหลอย่างรวดเร็วและเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนของตนเองจนไม่สามารถที่จะเดินทางไปไหนได้โชคดีที่ระดับน้ำไม่ขึ้นมาตรงพื้นบ้านที่อาศัยอยู่จึงทำให้รอดชีวิตมาได้
ขณะที่ นายนาวิน สุธรรมเม็ง ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอดอกคำใต้ ระบุว่า สำหรับน้ำป่าดังกล่าวนั้นได้สร้างความเสียหายให้กับคอสะพาน ถนนสายดอกคำใต้-เชียงม่วน ขณะนี้ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้โดยทางเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทได้เร่งเข้าทำการแก้ไขและซ่อมแซมสะพานดังกล่าว โดยคาดว่าภายในเย็นวันนี้จะสามารถแล้วเสร็จ เพื่อที่จะให้รถสามารถเดินทางได้ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่พื้นที่ทางการเกษตรโดยเฉพาะไร่ข้าวโพด ก็ได้รับความเสียหายเช่นกันและมีผู้สูญหายจำนวน 2 รายซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถที่จะพบแล้วจำนวน 1 ราย อยู่ในอาการปลอดภัยและยังมีชีวิตอยู่ ในส่วนอีกหนึ่งรายนั้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งค้นหา
ล่าสุด เมื่อบ่ายที่ผ่านมา นายบำรุง สังข์ขาว รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้มอบหมาย นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายพูนศักดิ์ เมาะราษี ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพะเยา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา นายอำเภอเชียงม่วน และรักษาราชการแทนนายอำเภอดอกคำใต้ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เข้าไปช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยด่วน
ทั้งนี้ ในส่วนของ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยานั้นผู้สูญหายทั้ง 2 ราย คือ นายชาย แปลกปลาด และ นายไสว อินต๊ะนาม เจ้าหน้าที่ได้เจอตัวแล้วเมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา ซึ่งพบเจออยู่บนยอดดอย ในส่วนของ อ.เชียงม่วน นั้น เจ้าหน้าที่ได้เจอร่างของผู้สูญหายทั้ง 4 ราย จาก 5 ราย ซึ่งพบว่า 4 รายนี้เสียชีวิตทั้งหมด โดยทราบชื่อต่อมาคือ นายภาณุวัฒน์ ฟุ้งเรืองฤทธิ์ อายุ 50 ปี (เสียชีวิต) , นางปาลิดา ฟุ้งเรืองฤทธิ์ อายุ 44 ปี (เสียชีวิต) นายศรัญ ฟุ้งเรืองฤทธิ์ อายุ 22 ปี (เสียชีวิต) , นายภานุพันธ์ สุรเมธีมานพ อายุ 50 ปี (เสียชีวิต) ส่วน ด.ญ.กัญญารัตน์ ฟุ้งเรืองฤทธิ์ อายุ 10 ปี เจ้าหน้าที่ยังคงออกตามหากันต่อไป
แขวงทางหลวงพะเยา ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ดังกล่าว โดยได้ทำการติดตั้งป้ายเตือนทางปิด ให้เลี่ยงโดยใช้เส้นทางอื่น และดำเนินการถมดินบริเวณสะพานที่ขาด ขณะนี้เครื่องจักรกลได้เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการซ่อมแซมโดยด่วนแล้ว คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จและสามารถเปิดการจราจรได้ในวันพรุ่งนี้ ทางด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เร่งดำเนินการซ่อมแซมระบบการจ่ายไฟฟ้า ปัจจุบันไฟฟ้าดับในพื้นที่ทั้งหมู่บ้าน คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่ได้ภายในวันนี้
ทางด้าน นายนฤมิต สมัคร เกษตรจังหวัดพะเยา พร้อมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจผลกระทบด้านการเกษตร จากเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นได้รับข้อมูลว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนักจำนวน 2 อำเภอ คือ อำเภอดอกคำใต้ และอำเภอเชียงม่วน พื้นที่ได้รับผลกระทบด้านการเกษตรเบื้องต้นอยู่ในอำเภอเชียงม่วน จำนวน 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน มีเกษตรกรจำนวน 50 ครัวเรือน พื้นที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จำนวน 150 ไร่ ถั่วเหลืองฝักสด จำนวน 70 ไร่ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ภายในวันที่ 16ต.ค. 2566