สธ.-กทม. ประกาศความร่วมมือ ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หญิงอายุ 11-20 ปี

วันนี้ (25 ต.ค. 66) นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมลงนามประกาศความร่วมมือขับเคลื่อนนโยบายมะเร็งครบวงจร การรณรงค์ฉีดวัคซีน HPV 1 ล้านเข็มใน 100 วัน สำหรับผู้หญิงอายุ 11-20 ปี ภายใต้แนวคิด “รู้เท่าทัน ป้องกันได้ ตรวจพบรักษาไว ปลอดภัยจากมะเร็ง” โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนาม ณ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี  ทั้งนี้มีหน่วยงานภาคีเครื่อข่ายร่วมลงนาม ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน สภากาชาดไทย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สถาบันวัคชีนแห่งชาติ กรมการแพทย์ กรมอนามัย และกรมควบคุมโรค
 

ทั้งนี้ แต่ละปีประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งมากกว่า 100,000 คน และเสียชีวิตปีละประมาณ 80,000 คน สำหรับโรคมะเร็ง ถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก พบเป็นอันดับ 2 ในผู้หญิงไทยที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี ซึ่งในปี 2563 พบผู้ป่วยรายใหม่ ประมาณ 9,000 ราย และเสียชีวิตประมาณ 4,700 ราย สาเหตุมาจากการติดเชื้อ Human Papilloma Virus หรือ HPV ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยวัคชีน โดยเฉพาะหากฉีดวัคซีนตั้งแต่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์จะมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อได้ถึงร้อยละ 93-95 ส่งผลให้ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปากมดลูกใน 10-20 ปีข้างหน้าได้ กระทรวงสาธารณสุข จึงมีนโยบายเร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ในผู้หญิงอายุ 11-20 ปี ทั้งในและนอกระบบการศึกษาเพื่อลดการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก โดยกำหนดเป้าหมายการฉีด 1 ล้านเข็ม ภายใน 100 วัน ตามนโยบายยกระดับ 30 บาท และ Quick Win “มะเร็งครบวงจร-วัคซีน HPV” โดยจะมีการคิกออฟฉีดวัคซีนพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 8 พ.ย. นี้ หญิงไทยอายุ 11-20 ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน

ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้มีการจัดฉีดวัคซีน HPV ให้เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มาตั้งแต่ปี 2558 โดยเป็นการฉีดแบบ School Base ให้กับเด็กนักเรียนทุกสังกัดในกรุงเทพมหานคร (จนวัคซีนขาดชั่วคราวตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา) และในปี 2566 กรุงเทพมหานครได้ฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนหญิงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ถึงอายุ 20 ปี ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข