เคลื่อนไหวแล้ว! มติสมาคมชาวไร่อ้อยปิดโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ 5 พ.ย.นี้

เคลื่อนไหวแล้ว! มติสมาคมชาวไร่อ้อยปิดโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ 5 พ.ย.นี้

กลุ่มสมาคมชาวไร่อ้อยเคลื่อนไหวแล้ว! ลงมติปิดโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ 5 พ.ย.นี้ สวนนโยบายกำหนดเป็นสินค้าควบคุม หลังถูกสกัดขึ้นราคาน้ำตาลทราย 4 บาท/กก.

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามสถานการณ์ 'น้ำตาลทราย' ที่มีผลกระทบทั่วประเทศ และทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของ 'สมาคมชาวไร่อ้อย' เขต 6 จังหวัดกำแพงเพชร โดยนายมนตรี เลาหศักดิ์ประสิทธิ์ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 6 ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณีการประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอให้พิจารณาเรื่องให้น้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม เพื่อป้องกันการกำหนดการขึ้นราคาหรือราคาจำหน่ายหรือกำหนดเงื่อนไขปฏิบัติอันไม่เป็นธรรม และกำกับดูแลสินค้าน้ำตาลทรายให้มีราคาที่เป็นธรรมและมีปริมาณเพียงพอ ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้มีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายบริสุทธิ์หน้าโรงงาน กิโลกรัมละ 4 บาท ทำให้ราคาปลีกน้ำตาลต้องขยับขึ้นตามนั้น 

 

 

นายมนตรี เลาหศักดิ์ประสิทธิ์ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 6 กล่าวว่า จริงแล้วการปรับขึ้นราคาน้ำตาล 4 บาท เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น เป็นมติความเห็นชอบของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล (กน.) ที่พิจารณาแล้วเห็นว่า สถานการณ์น้ำตาลโลกในปัจจุบันมีราคาที่สูงกว่าประเทศไทยจำนวนมาก ขณะที่เราจำหน่ายน้ำตาล 20-23 บาท แต่ ราคาน้ำตาลตลาดโลก จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท และที่ผ่านมาเมื่อประมาณปี 2560-2561 ประเทศไทยได้ถูกประเทศบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของโลกได้ร้องในเรื่องของราคาน้ำตาลของประเทศไทย ที่รัฐบาลได้เข้าไปอุดหนุนราคาน้ำตาลช่วยเหลือชาวไร่ จนทำให้เกิดผลกระทบต่อการจำหน่ายน้ำตาลในตลาดโลก รัฐบาลจึงได้ปล่อยให้ราคาอ้อยและน้ำตาลลอยตัวมา 3-4 ปี ส่งผลให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องแบกรับภาระการขาดทุนมาโดยตลอด 

 

การปรับราคาน้ำตาล 4 บาทนั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วนที่ 1 เงินจำนวน 2 บาทแบ่งให้กับกองทุนน้ำตาล และอีก 2 บาทเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่แบกรับปัญหาโดยเฉพาะต้นทุนการผลิตหรือการปลูกอ้อยมีราคาที่สูงมาเป็นเวลานาน ขณะที่เพื่อนบ้านใกล้เคียงเรานั้นราคาน้ำตาลทรายสูงกว่าของประเทศไทย ก็จะส่งผลให้น้ำตาลทะลักออกสู่ประเทศเพื่อนบ้านแบบผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกองทัพมดที่พร้อมจะลักลอบส่งออกน้ำตาลเหล่านี้ไปสู่ประเทศที่บริโภคน้ำตาลแพงกว่าประเทศไทย อนาคตน้ำตาลภายในประเทศก็จะขาดตลาดทันที 

 

 

นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 6 กล่าวต่อว่า ในวันนี้เราได้มีการพูดคุยใน 4 องค์กรหลัก ได้แก่ สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย , ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน , สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และ สมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ได้สรุปกำหนดมาตรการขั้นเด็ดขาดด้วย การปิดโรงงานผลิตน้ำตาลทั่วประเทศ พร้อมกันในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 เพื่อไม่ยอมนำน้ำตาลในส่วนของเกษตรกรชาวไร่อ้อย ในส่วน 70% เพราะหากจำหน่ายไปแล้วก็จะขาดทุน ส่วนน้ำตาลดิบที่เหลืออีก 30% ที่เป็นโควตาของโรงงานก็จะปล่อยเป็นเรื่องโรงงานจะปล่อยไปจำหน่าย สำหรับการเตรียมปิดโรงงานน้ำตาลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำตาลในฤดูหีบอ้อยในปีนี้ 

 

ดังนั้น ข้อเรียกร้องของการปิดโรงงานน้ำตาลในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้รัฐบาล โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ตอบการแก้ปัญหาที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในส่วนเงิน 2 บาท ให้ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร 

 

ประการที่สอง เงินจำนวน 8,000 ล้านบาทที่จะช่วยเหลือการตัดอ้อย ปี 2565-2566 ตันละ 120 บาท จะทำเช่นไร ซึ่งการปิดโรงงานในครั้งนี้ถือเป็นมาตรการขั้นเด็ดขาดจนกว่าจะได้ข้อสรุปในการช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ชัดเจน

 

และหลังจากเสร็จสิ้นแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแล้ว นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 6 ได้เปิดห้องประชุมกับคณะกรรมการบริหารของสมาคมชาวไร่อ้อยเพื่อกำหนดมาตรการและแบ่งหน้าที่ในการเคลื่อนไหวไปยังโรงงานเพื่อปิดโรงงานส่วน 70% ของสมาคมชาวไร่อ้อยไม่ให้ออกสู่ตลาดในครั้งนี้ 

 

ข่าวโดย พิพัฒน์ จงมีความสุข จ.กำแพงเพชร