ชาวนาขอนแก่นยิ้มรับมาตรการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวข้าว ไร่ละ 1,000 บาท
ชาวนาขอนแก่นยิ้มรับมาตรการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ปี 66/67 ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ ชี้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย
วันที่ 15 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ภายหลังจากรายงานข่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่มีนายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพณิชย์ เป็นประธานการประชุมแทน นายเศรษฐ ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เดินทางไปร่วมการประชุมเอเปค ที่ซานฟานซิสโก สหรัฐอเมริกา (ระหว่างวันที่ 12-17 พ.ย.66)
โดยวาระการประชุม ครม. ที่น่าสนใจคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการเสนอมาตการให้เงินช่วยเหลือชาวนา (ค่าเก็บเกี่ยวข้าว) ไร่ละ 1,000 บาท ภายใต้โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 วงเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท โดยมีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเป้าหมาย 4.68 ล้านครัวเรือน โดยจะให้เงินช่วยเหลือ ไร่ละ 1,000 บาท กับเกษตรกรครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท ตามที่คณะกรรมการบริหารและจัดการข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน
สอบถามนางบังอร อายุ 67 ปี เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ชาวบ้านเหล่านาดี หมู่ 11 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ปีนี้ตนทำนาปลูกข้าว 4 ไร่ โดยใช้เงินลงทุนในการทำนาปีนี้ ตั้งแต่ค่าจ้างในการไถพรวนดินจนกระทั่งขั้นตอนการปักดำนาจนแล้วเสร็จ เป็นเงินกว่า 13,000 บาท และเกือบจะไม่ได้ข้าวไว้กินและขาย เพราะในช่วงปักดำนาแล้วเสร็จ ตนและชาวนาในพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำจากสถานกรณ์ภัยแล้ง แต่ก็นับว่าโชคดีที่มีฝนตกลงมาในช่วงเดือนกันยายน ทำให้ข้าวไม่แห้งตายเสียก่อน ซึ่งตอนนี้ข้าวที่ปลูกไว้อยู่ในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิต จึงได้ว่าจ้างแรงงานคนในหมู่บ้านมาเก็บเกี่ยวข้าวของตนจำนวน 10 คน โดยจ่ายค่าแรงวันละ 350 บาทต่อคน ซึ่งยังไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม
สาเหตุที่ไม่ใช้รถเกี่ยวข้าวที่คิดค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 900 บาท เพราะตนมองว่าการใช้รถเกี่ยวจะทำให้ข้าวร่วงหล่นลงพื้น ทำให้เสียดายข้าว และปีนี้ต้นข้าวยืนต้นสวย ไม่ล้มราบไปกับพื้น การใช้คนเกี่ยวจึงน่าจะได้ผลผลิตมากกว่าการใช้รถเกี่ยว ซึ่งคาดว่าปีนี้จะได้ข้าวอย่างน้อย 30-40 กระสอบ แต่ก็น้อยกว่าปีที่ผ่านมา เพราะปีก่อนฝนดีกว่าปีนี้
นางบังอร กล่าวต่อว่า และการที่รัฐบาลจะมีมาตรการในการช่วยเหลือชาวนาในเรื่องของค่าเก็บเกี่ยวข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ตนก็เห็นว่าเป็นมาตรการที่ดี เพราะจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับชาวนาได้ในระดับหนึ่ง แม่ว่าจะไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย ซึ่งก็ต้องคอยติดตามดูว่า การจ่ายเงินในส่วนนี้จะมีระเบียบและขั้นตอนอย่างไร และเงินจะถึงมือชาวนาเมื่อไหร่
ทางด้าน นายอาทิตย์ อายุ 41 ปี เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีอีกราย กล่าวว่า ปีนี้ตนลงทุนทำนาบนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ หมดไปกับค่าไถนา ค่าหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว และค่าอื่นๆ ประมาณ 4,000 บาท ยังไม่รวมค่าเก็บเกี่ยวข้าว ในช่วงทำนาก็ประสบปัญหาฝนไม่ตกตรงตามฤดูกาล หรือเมื่อมีฝนตกลงมาแล้วก็มีปริมาณน้ำมากเกินไป ทำให้การทำนาทำได้ยาก อย่างปีนี้ฝนจะตกดีในช่วงเริ่มต้นทำนา แต่หลังจากปักดำนาเสร็จปรากฏว่าเกิดภาวะน้ำแล้ง ทำให้ข้าวเกือบแห้งตาย ชาวนาต้องแย่งกันสูบน้ำใส่นาข้าว ซึ่งก็พอทำให้ต้นข้าวฟื้นขึ้นมาได้ในระหว่างรอฝนตกลงมา ตอนนี้ข้าวปลูกไว้ก็อยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวเช่นกัน โดยตนใช้วิธีการใช้คนเกี่ยวแทนการใช้รถเกี่ยวข้าว โดยคิดค่าจ้างเกี่ยวข้าวมัดละ 4 บาท เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้น
ซึ่งการที่รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ตนก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของชาวนาลงมาได้ในระดับหนึ่ง ทำให้ชาวนามีกำลังใจมากขึ้น ดีกว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เลย และหากเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลช่วยผลักดันให้ราคาข้าวสูงกว่านี้ เพราะตอนนี้ชาวนาส่วนหนึ่งไม่ขายข้าวเพราะข้าวราคาตกต่ำ ไม่คุ้มกับการลงทุนที่ทำนามาอย่างยากลำบาก
ข่าวโดย กฤศเมธ โลโห จ.ขอนแก่น