หลอกอ่านข่าวแล้วได้ตังค์ 'ไทยเดลี่' ตุ๋นเหยื่อโอนเกลี้ยงเฉียด 4 ล้าน
เตือนภัย หลอกอ่านข่าวแล้วได้ตังค์ 'ไทยเดลี่' ตุ๋นเหยื่อโอนเกลี้ยงเฉียด 4 ล้าน
ตำรวจไซเบอร์จับกุมเครือข่ายแอป "ไทยเดลี่" อ้างอ่านข่าวแล้วได้ตังค์ ตุ๋นเหยื่อโอนเกลี้ยงเฉียด 4 ล้าน สืบเนื่องจาก เมื่อ 17 พ.ค. 2566 ได้มีกลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 6 คน รวมตัวเข้าแจ้งความต่อตำรวจไซเบอร์ โดยเมื่อกลางปี 2564 กลุ่มผู้เสียหายได้ถูกหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชัน "ไทยเดลี่" ซึ่งเป็นแอปสำหรับอ่านข่าว แต่มีการชักชวนลงทุนทำภารกิจออนไลน์ สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินที่โอนไปคืนได้
โดยมิจฉาชีพมักยิงโฆษณาให้โหลดแอปดังกล่าวตามโซเชียล ซึ่งมักขึ้นป๊อบอัป (Pop-Up) กับวิดีโอที่ดูผ่าน YouTube เพจหรือกลุ่มประกาศหางานใน facebook หรือ สุ่มส่ง SMS หรือ ลิงก์ทางไลน์ โดยล่อเหยื่อด้วยการเชิญชวนทำงานด้วยการอ่านข่าวออนไลน์ อ้างทำงานง่ายให้ผลตอบแทนดี
สำหรับกรณีนี้ กลุ่มผู้เสียหายได้พบโฆษณาแล้วโหลดแอปดังกล่าว เมื่อเข้าแอปแล้วจะปรากฎลิงก์ให้อ่านข่าวปกติ แล้วปรากฏข้อความเพื่อดึงดูดความสนใจในการหารายได้ โดยให้ผู้เสียหายเข้าไลน์กลุ่ม Open Chat โดยสมาชิกในกลุ่มนั้นทั้งหมดเป็นหน้าม้า จะพยายามสนทนา ล่อลวง ใช้อุบายต่าง ๆ โน้มน้าวใจ มีการรีวิวผลตอบแทน
รวมทั้งมีการทำคลิปวีดีโอแนะนำวิธีการทำงาน พร้อมทั้งมีการอ้างความน่าเชื่อถือว่าบริษัททำสัญญากับบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของโลก เพียงสำรองเงินเพื่อเข้าไปอ่านข่าว หรือดูโฆษณาของบริษัทชื่อดังต่างๆ เช่น อเมซอน ลาซาด้า ซอปปี้ ก็จะได้เงินกลับคืนในอัตรา 10-20 % ภายใน 10 นาที
เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อมิจฉาชีพ จะให้เริ่มโอนเงินในจำนวนที่ต่ำก่อน และให้ทดลองถอนเงินจากระบบ ซึ่งพบว่าประมาณ 3- 4 ครั้งแรก สามารถถอนได้จริง เช่น ลงทุน 1,000 บาท ได้กำไร 1,200 บาท
ต่อมา กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อและเริ่มลงทุนในอัตราที่เพิ่มมากขึ้น มีการกำหนดกเกณฑ์ในการโอนเงินเพิ่มขึ้น เช่น ต้องโอนเงินให้ครบตามจำนวนแพคเกจ เช่น
แพ็คเกจ ที่ 1 จำนวน 10,000 บาท
แพ็คเกจที่ 2 จำนวน 3,000 บาท
แพ็คเกจที่ 3 จำนวน 66,000 บาท
หากทำไม่ครบ จะไม่สามารถถอนเงินทั้งหมดคืนได้ ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินไปจำนวนหลายครั้ง ยอดความเสียหายที่โดนหลอกลวงไปทั้งหมด รวมทั้งสิ้น 3,869,188 บาท
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนเพื่อเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้หลายราย
วันที่ 14 พ.ย.66 ประมาณ 16.00 น. พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม 1 ในเครือข่ายผู้ร่วมกระทำผิด โดยได้จับตัวนายนครินทร์ อายุ 25 ปี ชาว จ.เชียงราย ได้บริเวณ ริมถนนซอยลาดพร้าววังหิน 6 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมฯ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จากการตรวจสอบแพลตฟอร์มหลอกลวงดังกล่าว พบว่าได้ยิงโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก จนมีผู้ติดตามหลักแสน และสามารถดาวน์โหลดแอปดังกล่าวได้ทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลหาตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดี และประสานขอปิดกั้นแพลตฟอร์มดังกล่าวทุกช่องทาง
กรณีผู้เสียหายจากแพลตฟอร์มดังกล่าว สามารถรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจ หรือ แจ้งความผ่านระบบรับแจ้งออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.com เท่านั้น ปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน AOC 1441