'ใบเตย' ออกจากเรือนจำ หลังได้ปล่อยตัวชั่วคราว
"ใบเตย" ออกจากเรือนจำ หลังศาลให้ประกัน เจ้าตัวไหว้ทักทายสื่อ แต่ไม่ให้สัมภาษณ์ พุ่งกลับบ้านทันที ด้าน ทนายความ ระบุ คำร้องต่อศาลนำเสนอทุกประเด็น ที่เป็นข้อโต้แย้ง ยันมีหลักฐานเส้นทางการเงินทั้งหมด เตรียมเขียนคำร้องขอประกันตัว "ดีเจแมน" เร็ว ๆ นี้
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ความคืบหน้ากรณี "ใบเตย" หรือ น.ส.สุธีวัน กุญชร นักร้องชื่อดัง ได้รับการอนุญาตจากศาลอาญา ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ในคดีฉ้อโกง แชร์ Forex-3D หมายเลขดำ อ.989/2566 ด้วยวงเงิน 5 ล้านบาท หลังความพยายาม ยื่นขอประกันตัวต่อศาลถึง 3 ครั้ง พร้อมกำหนดเงื่อนไข ติดอีเอ็ม - ห้ามออกนอกประเทศ ตามที่นำเสนอไปนั้น
ต่อมาเวลา 17.50 น. รถของเรือนจำ ได้นำตัว "ใบเตย" เดินทางจากศาลอาญารัชดา กลับมาที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ก่อนที่จะเข้าสุ่ขั้นตอนของการปล่อยตัวชั่วคราว หลังศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์ 5 ล้านบาท พร้อมติดกำไลอีเอ็ม โดย ใบเตย อยู่โซนด้านหลังรถของเรือนจำ ซึ่งตามขั้นตอน ทนายความจะต้องนำหนังสือปล่อยตัว มายื่นที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า ใบเตย จะได้รับการปล่อยตัวในเวลา 19.30 น.
ทั้งนี้ ทนายอมร กุศล ทนายความของใบเตย ระบุว่า การได้ปล่อยตัวของใบเตยครั้งนี้ นายพัฒนพล มินทะขิน หรือ "ดีเจแมน" สามี ทราบเรื่องแล้ว ซึ่งดีเจแมนก็ดีใจมาก ส่วนการยื่นขอประกันตัวดีเจแมน ทนายความอยู่ระหว่างพิจารณา ดำเนินการหลังจากนี้ต่อไป
โดยเวลา 18.20 น. บรรยากาศหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำคลองเปรม มีสื่อมวลชนจำนวนมาก มารอทำข่าว "ใบเตย" ที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งเมื่อเวลา 19.00 น. นายอมร กุศล ทนายความของใบเตย เดินทางมาถึงทัณฑสถานหญิงกลาง พร้อมให้สัมภาษณ์ ก่อนเข้าไปรอรับการปล่อยตัวของ ใบเตย ว่า หลังจากฟังคำสั่งก็ดีใจ และยังไม่ได้คุยกับใบเตย เจ้าหน้าที่ก็นำตัวลงไปข้างล่าง มีเพื่อน ๆ มาพบให้กำลังใจ
ส่วนเรื่องของคำร้องที่ยื่นต่อศาล ตนขอสรุปคร่าว ๆ เพราะไม่อยากก้าวล่วง ซึ่งครั้งแรกศาลให้เหตุผลคดีความเสียหายเยอะเกรงจะหลบหนี ครั้งที่สองไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลง และครั้งที่ 3 ตนได้เขียนคำร้องหลายเรื่องที่ให้เหตุผลศาล รวมถึงการนำพยานหลักฐานสู่ศาลด้วย เพราะก่อนหน้านี้ ไม่ได้ส่งพยานหลักฐาน เข้าสู่สำนวนเลย เพราะอัยการมีการเลื่อนสั่งฟ้องคดี จนศาลไม่อนุญาตให้อัยการเลื่อนคดี
และเมื่อสั่งฟ้อง ทำให้ตนนำหลักฐานโต้แย้งทุกประเด็น ที่อัยการสั่งฟ้อง และเมื่อเรารู้ทิศทางนำเสนอพยานหลักฐาน ที่ถูกกล่าวหาเสนอไปว่า มีพยานหลักฐานที่จะสู้ และพยานหลักฐานนี้ ไม่ได้สู้แค่ในชั้นศาล เพราะสู้ตั้งแต่ชั้นสอบสวน เมื่อชั้นสอบสวนไม่เชื่อ พยานหลักฐานเข้าสู่ชั้นอัยการ ชั้นศาล ไม่ได้ปฏิเสธลอย ๆ แต่มีพยานหลักฐานโต้แย้งทั้งหมด
สำหรับการเขียนคำร้องครั้งนี้ มีทั้งหลักฐานที่นำเสนอดีเอสไอตั้งแต่ต้น รวมถึงสามารถอธิบายเส้นทางการเงินได้ทั้งหมด แต่ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนอาจจะไม่เชื่อ ก็เป็นการทำงานของชั้นสอบสวน แต่วันนี้ก็พิสูจน์แล้วว่า ทนายมีข้อเท็จจริงที่ต่อสู้ โดยขั้นตอนของกฎหมายนี้ อยู่ในชั้นสืบพยานแล้ว มีทั้งฝ่ายโจกท์ และจำเลย และสืบมาตั้งแต่เดือน ก.ค.
ทนายอมร ยังบอกอีกว่า วันนี้ก็ทำอย่างไรก็ได้ ให้ลูกความออกจากเรือนจำ วันนี้ก็ถือว่าทำสำเร็จแล้ว จึงอยากให้สังคม ให้ความเป็นธรรมกับใบเตยด้วย เพราะนี่เป็นกระบวนการหนึ่งของศาล สังคมควรให้โอกาสน้องด้วย และในกติกาบ้านเมืองมีอยู่ถ้าผิดก็พร้อมน้อมรับ
“ตอนนี้สภาพจิตใจของใบเตยดีมาก น้ำตาน้องร้องไห้ออกมา เป็นน้ำตาของความปิติ ผู้หญิงคนหนึ่ง ก็คิดถึงลูกด้วยลูกยังเล็ก และลูกก็ยังไม่ทราบเลยว่า แม่ไปไหน เราไม่อยากให้เด็กซึมซับสังคมแบบนี้ ก็ต้องประคองไปเรื่อย ๆ พร้อมขอบคุณศาล ที่พาใบเตยกลับมาสู่ครอบครัว และลูกสาวเขา”
ทนายอมร กล่าวว่า ส่วนกรณีการยื่นประกันตัวของ "ดีเจแมน" ต้องปรึกษาครอบครัวก่อน เพราะตอนนี้พยายามช่วยไปทีละคน และจะต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งหลักฐานของดีเจแมน ก็มีการนำเสนอ และยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ และสู้มาตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนเช่นกัน
แต่สังคมโจมตีว่าหนีไปแล้ว ทั้งที่น้องยังไม่ได้หนี อย่างกรณีที่มีทนายความบางคน ออกมาให้ความเห็นว่าหลบหนี มองว่ามันเป็นตราบาปมาก และหลักฐานของใบเตย กับหลักฐานของดีเจแมน ก็เป็นหลักฐานชุดเดียวกัน ซึ่งไม่ต้องกังวลเพราะดีเจแมนก็มีหลักทรัพย์อยู่แล้วเช่นกัน แล้วยื่นประกันตัวเร็ว ๆ นี้ ส่วนจะเพิ่มหลักทรัพย์มากกว่า ใบเตย หรือไม่ขอปรึกษาแม่ของดีเจแมนก่อน
"ที่ผ่านมาเราทำงานหนัก แม้จะท้อ แต่ก็ไม่ถอย ผมมั่นใจมากว่าครั้งนี้ จะได้ประกันตัว ครั้งนี้ศาลรับฟัง จึงเกิดภาพการไต่สวนแบบนี้ โดยหลังจากทนายอมร ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ก็เดืนเข้าไปรอรับใบเตย จากนั้น นายชาญวิทย์ ทวีสิน น้องชายใบเตย ก็เดินทางเข้ามาเพื่อรอนับใบเตยเช่นกัน"
จากนั้นเวลา 19.54 น. มีรายงานว่า "ใบเตย" ได้นั่งรถเบนซ์สีขาวป้ายแดง ซึ่งเป็นของน้องชาย ออกไปจากทัณฑสถานหญิงกลาง โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด โดยภายในรถของใบเตย มีทั้งหมด 5 คน ใบเตย นั่งตรงกลาง ด้านหลังของรถใส่แมสสีขาว และใส่เสื้อลายดอกสีชมพู ดูจากสีหน้าเรียบเฉย และมีน้องชายของใบเตย นั่งไปทางด้านข้างของใบเตย
ทั้งนี้ ใบเตย ไม่ได้ลงจากรถ มาให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เพียงแค่ไหว้ทักทายสื่อมวลชน ก่อนที่จะออกจากทัณฑสถานหญิงไปทันที