มรดกเลือด หลานยิงอา ดับ 2 ศพ ที่ดินมรณะนนทบุรี แพ้ศาลแค้นย้ายออก
สลด! มรดกเลือด หลานยิงอา ดับ 2 ศพ ที่ดินมรณะนนทบุรี แพ้ศาลแค้นย้ายออก เปิดปมขัดแย้งครอบครัว แม่มือยิงเล่าหมด
เหตุสุดสลด กลายเป็นมรดกเลือด หลานยิงอา ดับ 2 ศพ ปมที่ดินนนทบุรี เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 ม.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกอาวุธปืนยิง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย เหตุเกิดบริเวณ หมู่ที่ 1 ถนนเลียบคลองหลุมลี ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พล.ต.ต.ปราถนา แผ่นผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้รับทราบ จากนั้นจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้งรีบตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบนถนนเลียบคลองหลุมลี พบศพ น.ส.พะเยาว์ อายุ 50 ปี ใส่เสื้อแขนยาวสีฟ้าอ่อน สวมกางเกงขาสามส่วน สีกรมท่า ใส่หมวกคลุม สภาพศพนอนหงายเสียชีวิต
ใกล้กันพบศพ นายพายัพ อายุ 60 ปี นอนตะแคงเสียชีวิต สวมเสื้อ แขนยาวสีฟ้า กางเกง ขายาว สีน้ำตาล สวมหมวก ห่างออกไปเล็กน้อย พบปลอกกระสุนปืน ไม่ทราบขนาดตกอยู่ จำนวน 3 ปลอก
จากการสอบปากคำ นายชาติชาย บุตรนุช สมาชิก อบต. หมู่ 1 ต.บ้านใหม่ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังไปดูไก่อยู่ในฟาร์ม ได้มีชาวบ้านโทรศัพท์มาแจ้งว่า พบผู้เสียชีวิต ตอนแรกนึกว่า เป็นอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม และไม่คิดว่า จะเป็นเหตุยิงกัน
โดยทราบมาว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายพิสิษฐ์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นหลานของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน โดยผู้ตายก็เป็นอา น้องของพ่อผู้ก่อเหตุ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทราบมาว่า สาเหตุมาจากเรื่องที่ดิน จนกระทั่งขึ้นโรงขึ้นศาล ล่าสุดศาลได้มีการตัดสินคดี และเรื่องได้จบไปแล้วทั้ง 3 ศาล เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยผู้ตายเป็นคนได้ที่ดินไปทั้งหมด ส่วนหลานไม่ได้อะไรเลย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่า คนร้ายที่เป็นหลาน คงเกิดความแค้นที่สะสมมาเป็นเวลานาน กระทั่งมาพบกับผู้ตายทั้ง 2 จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง จนถึงแก่ความตาย
ตามปกติแล้ว ผู้ก่อเหตุรายนี้ ก็เห็นกันอยู่ และก็ไม่ได้เป็นคนอารมณ์ร้ายอะไร ตอนนี้ผู้ก่อเหตุ ได้ติดต่อขอมอบตัวที่บ้านกำนันแวน หมู่ 5 ต.บ้านใหม่ ซึ่งหลังเกิดเหตุ จึงรีบออกไปตรวจสอดบ และเห็นว่า ผู้ตายมีเลือดออกบริเวณศีรษะ และไม่รู้ว่าเขาทะเลาะอะไรกัน เพราะคนก่อเหตุ ก็ยังเด็กอยู่ และไม่ทราบว่า เอาอาวุธปืนจากไหน และเมื่อตนเองมาถึงที่เกิดเหตุ ก็เห็นผู้ตายนอนอยู่ตรงจุดที่มีการสูบน้ำเข้านาแล้ว
ขณะที่ นางละเอียด อายุ 62 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตามปกติแล้ว ลูกชายจะอยู่ที่บ้านหลังนี้ ซึ่งหลังจากที่ลูกชายลงมือก่อเหตุแล้ว ตนได้บอกกับลูกชายว่า ให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่ต้องหนี โดยทางลูกชาย ได้บอกว่า ขอไปสงบสติอารมณ์ และขอไปทำใจก่อน
สำหรับบ้านของผู้ตาย อยู่ลึกๆ เข้าไปด้านใน โดยจะต้องเดินเข้าไป รถเข้า-ออกไม่ได้ และปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน ลูกชายได้บอกกับตนว่า ถ้าอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้ ใครก็อยู่ไม่ได้ บ้านหลังนี้ต้องเป็นของผู้ตาย ไม่รู้ไปตกลงกันยังไง เพราะพ่อของสามีตน มีลูกด้วยกัน 5 คน ไม่มีใครได้เลย นอกจากผู้ตาย ซึ่งศาลได้ตัดสินแล้ว เราต้องย้ายออก แต่ลูกชายตนไม่ยอมย้ายออก และไม่ยอมไปไหน ทั้งที่ตนกับลูกคนเล็ก ก็ไปหาบ้านใหม่กันแล้ว โดยบ้านหลังนี้ สร้างมานานแล้ว ประมาณ 30-40 ปี ไม่รู้ไปเซ็นยกกันยังไง เคยขอซื้อคืน ก็ไม่ได้ ตนก็ไม่ได้อะไรเลย
นางละเอียด กล่าวอีกว่า ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นทราบว่า เป็นปืนที่มีทะเบียน และเป็นของพ่อ ไม่ได้ไปซื้อมา เพราะมีอยู่นานแล้ว ตนเคยไปกู้เงิน ขอค่ารื้อถอนบ้าน เพื่อไปซื้อบ้านใหม่ ก็ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้ลูกชาย คงรู้สึกเครียด โดยศาลได้ตัดสินเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ยังไม่ได้มีการบังคับให้ออก ตนรอหมายศาลอย่างเดียว สำหรับตนแล้วยังไงก็ได้ แต่ลูกชายเขาไม่ยินยอม ขอแลกที่ดินก็ไม่ได้ ตนเป็นพี่สะไภ้ของผู้ตาย โฉนดที่ดินก่อนหน้านี้ เป็นชื่อของพ่อสามีตน ตอนหลังไม่รู้ไปจบยังไง กลายเป็นชื่อของ น.ส.พะเยาว์ ผู้ตายคนเดียว
“ปัญหาเรื่องที่ดิน มีเรื่องกันจนถึงขั้นขึ้นศาลกัน ตนเว้นทางไว้ให้ผู้ตาย เพื่อจะได้ เข้า-ออก รวมถึงที่ดินของพี่สาวอีก 3 ไร่ เพื่อขอให้ตนได้อยู่ตรงนี้ก่อน แต่ทางผู้ตายก็ไม่ยอม จะเอาที่ดินตรงนี้ให้ได้”
ทีมข่าวได้รับรายงานว่า ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. ( 8 ม.ค.) นายพิศิษฐ์ อายุ 40 ปี มือปืนที่ก่อเหตุ ซึ่งเป็นหลานของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับนายพนม พึ่งสุขแดง กำนันตำบลบ้านใหม่ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย