คลิปหลุด นางแบบสาว ขู่ว่อนแจ้งจับพี่เขย บังคับข่มขืนใจ
สุดทน คลิปหลุดโป๊นางแบบสาว แจ้งจับพี่เขย บังคับข่มขืนใจ ขู่ว่อนเน็ตด้านทนายตั้มลุย พาเข้าเจ้งความที่ สภ.บ้านแพ้ว
กรณีมีการขู่คลิปหลุดโป๊ว่อน นางแบบสาว แจ้งจับพี่เขย บังคับข่มขืนใจ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่ สภ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้พานางสาว เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี นางแบบสาว ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพี่เขยหื่น ที่ก่อเหตุข่มขู่บังคับขืนใจนางสาวเอโดยมีอาวุธปืน ถ่ายคลิปแบล็คเมล์ บังคับอมนกเขาและให้มีเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่ยินยอมจะนำคลิปไปเผยแพร่
โดยนางสาวเอถูกกระทำมาตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2566 พฤศจิกายน 2566 และธันวาคม 2566 รวมทั้งหมด 3 ครั้ง จนกระทั่งในที่สุดนางสาวเอ ซึ่งมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จนถึงขั้นเคยคิดจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหานี้มาแล้วนั้น ได้ตัดสินใจที่จะเข้าขอความช่วยเหลือจากทนายตั้มเพราะทนพฤติกรรมที่ถูกบังคับต่างๆไม่ไหว อีกทั้งเมื่อเล่าให้ทางบ้านฟังก็กลายเป็นปัญหาครอบครัวตามมาอีกด้วย
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด (ทนายตั้ม) เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 4 5 ปีที่แล้ว ตอนที่นางสาวเอ เข้าสู่วัยสาวอายุประมาณ 25 ปี ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของแม่ โดยมีแม่ของนางสาวเอ ลูกของนางสาวเอ และหลานๆ ซึ่งเป็นลูกของพี่สาว ในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ส่วนพี่สาวกับพี่เขย ไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งแถวๆ สายห้า เพื่อทำงานส่งเงินมาเป็นค่าเลี้ยงดูแม่กับหลานๆ ที่เป็นลูกของพวกเขาอีก 3 คน ซึ่งพี่เขยมักจะมีข้ออ้างมาหาลูก แล้วก็เคยที่จะพยายามงัดห้องเข้าหานางสาวเอเพื่อกระทำมิดีมิร้าย
ตอนนั้นนางสาวเอได้มาปรึกษาตนว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งตนก็ได้แนะนำให้ไปเปลี่ยนกุญแจ และทำที่ล็อคหลายๆ ชั้นให้แน่นหนาขึ้น ต่อมาพี่เขยได้ถูกจับในข้อหายาเสพติด พี่สาวก็ยังคงอยู่ที่เพื่อทำงานและส่งเงินมาเป็นค่าเลี้ยงดู ส่วนนางสาวเอก็มีหน้าที่คอยไปรับไปส่งเด็กๆ ที่โรงเรียนซึ่งอยู่ใกล้บ้าน อีกทั้งยังได้ทำขนมขาย ร่วมกับการรับงานถ่ายแบบ กระทั่งพอหลังจากที่พี่เขยพ้นคุกออกมาแล้ว ก็ได้กลับมาลงมือก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรานางสาวเอ
โดยครั้งแรกได้พาลูกของนางสาวเอไปไว้ที่บ้านของพี่เขยจากนั้นก็มาฉุดนางสาวเอไปขึ้นรถบอกว่าจะพาไปรับลูก ซึ่งตลอดระยะทางที่นั่งไปด้วยกันนั้น นางสาวเอก็หวาดระแวงไปด้วย จึงได้โทรศัพท์ไปคุยกับเพื่อนตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ถูกพี่เขยบังคับพาเข้าไปข่มขืนในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านพื้นที่ศาลายาได้เป็นผลสำเร็จ โดยมีการใช้อาวุธปืนข่มขู่ด้วย
ต่อมาก็พามาก่อเหตุที่โรงแรมในพื้นที่ตำบลสวนส้ม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร อีก 2 ครั้ง ซึ่งพอหลังเกิดเหตุนางสาวเอได้แต่เก็บเงียบไม่กล้าบอกใครทนอยู่กับความทุกข์ใจมาตลอดในภาวะที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เนื่องจากเกรงว่าพี่เขยจะมาทำร้ายและยังเป็นห่วงหลานๆกับแม่ที่ต้องอาศัยการเลี้ยงดูจากพี่เขยกับพี่สาวจึงได้เก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเองคนเดียว แต่พี่เขยก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมที่จะพยายามข่มขืน โดยได้มีการพูดจา แชทไลน์ และข้อความเฟสบุ๊คบังคับข่มขู่และจะเอาคลิปที่แอบอัดไว้ไปเปิดเผยให้คนอื่นรับรู้
นางสาวเอจึงตัดสินใจเล่าเรื่องให้คนที่บ้านฟังจนกลายเป็นปัญหาครอบครัว เพราะพี่สาวไม่เชื่อว่าพี่เขยจะกระทำดังกล่าวจริง เมื่อเห็นว่าที่บ้านไม่ใช่เซฟโซนสำหรับตนเองอีกต่อไปและไม่มีใครเห็นใจที่จะช่วยนางสาวเอได้ จึงได้มาขอความช่วยเหลือจากทนายตั้ม เพื่อพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ขณะที่นางสาวเอ นามสมมติ ผู้เสียหาย บอกว่า ที่ไม่เข้าแจ้งความตั้งแต่ครั้งแรก เพราะตนเองกลัว และเกรงว่าจะไม่มีใครให้ค่าเลี้ยงดูแม่ ตนเองจะทำให้แม่ต้องกลับไปลำบากทำงานอีก แต่พอถูกกระทำบ่อยครั้งภายใต้ภาวะซึมเศร้าที่ตนเป็นอยู่แล้วทำให้คิดมากและเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย เพราะต้องเก็บกดอยู่คนเดียวไม่สามารถบอกใครได้ พอเล่าให้ฟังก็กลายว่าตนเองจะนำปัญหามาให้คนในครอบครัว จึงหมดความอดทน นำเรื่องนี้ไปเล่าให้ทนายตั้มฟัง เพื่อขอความช่วยเหลือและเรียกความยุติธรรมให้กับตนเอง
ทางทนายจึงพาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ้านแพ้ว ซึ่งตนเองก็รู้สึกว่า ครั้งนี้จะทำให้ตนได้หลุดพ้นจากการถูกกระทำดังกล่าวเสียทีด้านนายษิทราฯ ยังบอกอีกว่า วันนี้หลังจากที่พานางสาวเอ ผู้เสียหายมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับพี่เขยในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา และข่มขืนใจให้กระทำการใดๆ และการพาไปเพื่อการอนาจาร เสร็จสิ้นแล้ว ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาผู้เสียหายไปชี้สถานที่เกิดเหตุที่ถูกพี่เขยบังคับขืนใจในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านพื้นที่ตำบลสวนส้ม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐานดำเนินคดี
ส่วนทางด้านของทนายนั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ที่จะฟ้องร้องกล่าวโทษต่อผู้กระทำความผิด