จบดราม่า! บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ขอยุติบทบาทผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์

จบดราม่า! บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ขอยุติบทบาทผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์

จบดราม่า "บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์" ไลฟ์สดโต้ "แพรวพราว แสงทอง" ประกาศยุติบทบาทผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์ ลั่นที่ดินทั้งหมดยกให้ลูก

กลายเป็นประเด็นเดือดให้ชาวโซเชียลได้เกาะติด เมื่อ บิ๊ก ธิติวุฒิ หรือ ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ สามีของนักร้องลูกทุ่งหมอลำดัง แพรวพราว แสงทอง โพสต์ช้ำตัดพ้อถูกนอกใจ ซึ่งบุคคลที่ 3 เป็นคนในวง ถูกหยามศักดิ์ศรี กินบนเรือนขี้บนหลังคา

ซึ่งก่อนหน้านี้ แพรวพราว แสงทอง ออกมาไลฟ์สดชี้แจงประเด็นดังกล่าว โดยยอมรับว่าผิดพลาด แต่ไม่มีเรื่องชู้สาว ว่าเป็นเรื่องผิดพลาด แต่ไม่มีเรื่องชู้สาวเกิดขึ้น และบอกว่าคนเราก็ผิดพลาดกันได้นั้น

ล่าสุด บิ๊ก ธิติวุฒิ ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ออกมาไลฟ์สดตอบกลับ แพรวพราว ระบุว่า ที่มีปัญหากัน อาจจะเป็นเพราะเราห่างกัน 12 ปี ส่วนเรื่องหึงหวงตัดไปเลย เพราะไปไหน ก็จะเลือกไปกับ นิลุย ผู้จัดการส่วนตัวตลอด และก็จะถามเขาทุกครั้งว่าไปได้ไหม เขาก็บอกว่าไปได้ “ไปโล้ด” ซึ่งเดือนหนึ่งไปไม่เกิน 1-2 ครั้ง

แต่ต่อมาก็มาก็เริ่มสงสัย และวันนั้นอยู่ตนต่างจังหวัด บังเอิญไปเปิดกล้องวงจรเพื่อดูลูก ก็เห็นว่าเมียนอนคุยโทรศัพท์ยิ้มนอนยิ้มใหญ่ พอถามเขา เขาก็บ่ายเบี่ยงตอบว่าไม่ได้คุยกับใคร ซึ่งตนเสียความรู้สึกมาก เพราะเห็นผ่านกล้องวงจรปิดมาโดยตลอด ก็ถามย้ำอยู่นั้นว่าคุยกับใคร และมีพฤติกรรมลับๆล่อๆในห้องโถง ก็ไม่ตอบเลย ไม่มีคำตอบให้เลย

จบดราม่า! บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ขอยุติบทบาทผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์

หลังจากที่ถามว่าคุยโทรศัทพ์กับใคร ก็นอนแยกห้อง เขาไม่มาง้อกันเลย มีปัญหาทุกครั้ง ตนก็ง้อทุกครั้ง พอวันรุ่งขึ้นเขาก็มาโพสต์ว่า “กูไม่ใช่คนดี100% กูรักองค์กร กูรับครอบครัว” โพสต์รูปทุกๆคนแต่ไม่มีรูปผัว  เลยขึ้นไปเคลียร์ว่าทำไมโพสต์แบบนี้ ทำไมไม่ตอบกันดีๆเรียกได้ว่า ก็ไปง้อเขา ซึ่งเขาก็ตอบว่า “คุนเรื่องซื้อรถ” ซึ่งตนก็เชื่อ

“ที่เลือกเชื่อ เพราะอยากให้เรื่องมันแล้วไป เราเกิดในครอบครัวที่มีปัญหามาตลอด เลยไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง”  

ต่อมาก็ไปสืบ ว่า คุยโทรศัพท์นั้น มันเรื่องซื้อรถจริงมั้ย ซึ่งพบว่าเป็นเรื่องโกหก

ทั้งนี้ก็มีการพูดคุยกัน สุดท้ายเขามาบอกว่า เราไปคุยกับแฟนเก่า เป็นเพื่อนกันไม่มีอะไร ซึ่ง ผมก็บอกว่า “ยิ่งแฟนเก่ายิ่งห้ามคุย ขอให้ห้ามคุย เราไม่ชอบ และขอให้บล็อกผู้ชายคนนี้ออกไป เพราะเธอลูก 2 แล้ว และผัวนั่งอยู่นี่”

หลังจากนั้นตนก็ร้องไห้หนักมาก เพราะเสียใจที่เมียโกหก ซึ่งเขาตอบว่าไม่คิดอะไร เป็นเพื่อนกันแล้ว แต่คุยกันถึงตีสี่

ซึ่งวันนั้นก็เคลียร์ใจกัน ว่า อยากจะให้เกิดไขอะไรไหม เขาก็ตอบว่า ไม่มีอะไรให้แก้ไข ก็ขอให้มีสติในการใช้ชีวิต และบริหารงานให้มันได้ โดยเรื่องนี้จบไปเมื่อเดือนธันวาคม 2566

 

พบมาเดือนมกราคม 2567 ตนก็กินแอลกอฮอล์กับทีมงาน แพรวพราว เขาก็เมา เลยไปส่งที่บ้าน กลับกลายเป็นว่าเมื่อดูกล้องวงจรปิด แพรวพราวลงมาและแอบคุยโทรศัพท์ และแอบออกไปหลังบ้าน ซึ่งออกไปไหนไม่รู้  เหตุการณ์นี้ตนเห็นเอง เพราะเรากลับมาบ้าน กลับพบว่าเมียเพิ่งมาถึงบ้าน ใจตนแป๋วแล้ว

จบดราม่า! บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ขอยุติบทบาทผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์

จนมาทะเลาะกันขึ้นกูมึง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทะเลาะและขึ้นกูมึงกัน หลังจากนั้นมา ตนรู้เลยว่า แปลกแน่นอน

และตอนที่ตนไปญี่ปุ่นกับลูก 7 วัน เพราะอยากรู้ว่าเป็นยังไง ซึ่งแพรวพราวก็คุยโทรศัพท์ตลอด และไม่ได้คุยกับตน แต่ไปคุยกับใคร และโพสต์ว่าไปร้านเหล่ากับเพื่อนสาวสองคน จนสุดท้ายจับโป๊ะได้ว่าไปด้วยกันกับผู้ชาย เพราะผู้ชายมือมิกซ์คนนั้น เพราะเขาโพสต์สตอรี่ว่าอยู่ร้านเดียวกัน

“ไม่ไหวแล้ว มันสะสมกันมานานมากกว่า 3 เดือน ทำไมต้องออกมาเล่า เพราะเขาไม่แคร์เราเลย เราถามมาเป็นชั่วโมงว่าจะเอาคนนี้ออกไหม มือมิกซ์ ในประเทศมีเป็นแสนเป็นล้าน ก็ไม่ตอบ  ที่ผ่านมาผมก็อัดเสียงไว้หมดว่าคุยอะไรกันบ้าง แต่สิ่งที่ผมเจอมันเกินไป มันสุดจะทน เลยต้องออกมาพูดหรือเปล่า น้อยใจว่า ฉันทำมาทุกอย่างขนาดนี้ เอาคนนี้ออกให้ฉันไม่ได้เหรอ”

“ไม่เคยบอกเลยว่าเราต้องแก้ไขอะไร ถ้ามาบอกว่า เธอต้องปรับข้อนี้ๆ ถ้าไม่ปรับเราจะมีคนอื่น แต่เขาไม่เคยพูด”


“ผมพยายามทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ ด้วยความคิดตนเองอายุน้อย เรามีความพยายามอยู่เสมอ แต่ผมอาจจะไม่เข้าใจในการใช้ชีวิตบางอย่าง เพราะอาจจะประสบการณ์น้อย มีชีวิตคู่ครั้งแรก แต่ผมไม่เคยเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง และถ้าคุณรักองค์กร เอาองค์กรเป็นที่ตั้งเรื่องแค่นี้คุณก็ยังโพสต์เลย เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ไลฟ์สด แมวตายก็ไลฟ์สด ใครเข้า-ออกก็ไลฟ์สด ไม่ต้องมาว่าองค์กรเสียหาย มันเป็นมานานแล้ว”

“วันนี้ขอยุติบทบาทผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์ ทุกกรณีที่เกี่ยวข้อง ขอถอยออกมาเอง ไม่อยากให้ทุกคนลำบากใจ เพราะเราอยู่อาจจะทำให้ทุกคนบรรยากาศไม่ดี ต่อไปจะไม่เกี่ยวข้อง แต่จะดูแลโตเกียวมิวสิคเหมือนเดิม

ขอโทษทีมงานแสงทองฟินแลนด์ด้วย แต่ถึงไม่มีผมเขาคงทำต่อไปได้ งานไหนที่ตนรับ และคุยไว้แล้วผมจะไปหมดทุกงาน ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ ขอยืนยันว่า ทุกคำที่พูดวันนี้ พูดจริงทุกอย่าง มีความจริง ถ้าพูดเท็จขอจมลงดิน

ส่วนจะปรับตัวเข้าหากันไหม มันหมดเวลาปรับตัวเข้าหากันแล้ว เพราะเขาไม่เคยแคร์ความรู้สึกของเราแม้แต่นิดเดียว และที่ดินที่ซื้อมาจะมอบให้ลูกทั้งหมด จะไปหาใหม่ ”

“วันนี้ผมอาจจะทำให้เป็นเรื่องหญ่ แต่ที่ผมผ่านมาก็หนัก จากคนเข้มแข็ง กลายเป็นคนอ่อนแอโดยไม่รู้ตัว และหลังจากนี้ ก็จะไม่พูดเรื่องนี้อีก ส่วนความเป็นพ่อแม่ ยังคงสถานะเหมือนเดิม”