แล้งหนัก เขื่อนป่าสักฯ เหลือน้ำ 15% กรมชลฯ ยืนยันแล้วฤดูแล้งน้ำพอใช้ไหม?
ฝ่าวิกฤตแล้ง! เปิดแผนบริหารจัดการน้ำ แผนจัดสรรน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ฤดูแล้งปี 2566/67 ของกรมชลประทาน หลังแล้งหนัก แล้งนาน ทำน้ำในเขื่อนเหลือน้อย มีปริมาณน้ำ 148.40 ล้าน ลบ.ม. หรือเหลือน้ำ 15% ยันประชาชนมีน้ำเพียงพอ-เป็นไปตามแผนจัดสรรน้ำช่วงฤดูฝนปี 2567 ที่วางไว้
เปิดแผนบริหารจัดการน้ำ แผนจัดสรรน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 ของกรมชลประทาน หลังแล้งหนัก แล้งนาน ทำน้ำในเขื่อน เหลือน้อย มีปริมาณน้ำ 148.40 ล้าน ลบ.ม. หรือเหลือน้ำ 15% ของความจุอ่างฯ ยันประชาชนมีน้ำเพียงพอและเป็นไปตามแผนจัดสรรน้ำในช่วงฤดูฝนปี 2567 ที่วางไว้ พร้อมวอนทุกฝ่ายร่วมกันประหยัดน้ำฝ่าวิกฤตแล้ง
แผนจัดสรรน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในช่วงฤดูแล้งปี 2566/67
กรมชลประทาน ได้วางแผนจัดสรรน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 (1 พฤศจิกายน 2566 – 30 เมษายน 2567) ตามปริมาณน้ำต้นทุนที่มี (ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566) ประมาณ 1,019 ล้าน ลบ.ม. เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ การเกษตร การอุตสาหกรรม และสำรองไว้ต้นฤดูฝน (พ.ค.-ก.ค.67 ) รวมทั้งสิ้นกว่า 800 ล้าน ลบ.ม.
โดยในช่วงฤดูแล้งจะระบายน้ำผ่านอาคารท่อระบายน้ำลงลำน้ำเดิม (River Outlet) ซึ่งการระบายน้ำผ่านอาคารดังกล่าว จะเป็นการระบายน้ำผ่านเทอร์ไบน์ (turbine) ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่มีกระบวนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานน้ำ
โดยนำน้ำจากเขื่อนที่ต้องระบายอยู่แล้วมาผ่านเครื่องผลิตไฟฟ้าก่อนระบายลงสู่พื้นที่ท้ายน้ำในอัตราเท่าเดิม ซึ่งไม่กระทบต่อปริมาณน้ำที่ใช้สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ นับเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่า เกิดความมั่นคงทางพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ปัจจุบัน ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำประมาณ 148.40 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของความจุอ่างฯ
มีการระบายน้ำเพื่อส่งใปสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ชลประทานด้านท้ายเขื่อนในอัตรา 40 ลบ.ม./วินาที หรือวันละ 3.45 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเพียงพอและเป็นไปตามแผนจัดสรรน้ำในช่วงฤดูฝนปี 2567 ที่วางไว้
อ้างอิง : กรมชลประทาน