'ผู้เสียหาย' ร้องตร. สาวนามสกุลดัง หลอกแลกพระเก๊-นาฬิกาหรู สูญนับ10ล้าน

'ผู้เสียหาย' ร้องตร. สาวนามสกุลดัง  หลอกแลกพระเก๊-นาฬิกาหรู สูญนับ10ล้าน

"ผู้เสียหายร้อง" สาวใหญ่นามสกุลดัง อ้างเป็นหลานอดีตประธานองคมนตรี ใช้พระสมเด็จปลอมแลกนาฬิกาปาเต๊ะ เครื่องเพชรและของแบรนด์เนมมูลค่ากว่า10ล้านบาท ด้านตร.ออกหมายเรียกคู่กรณีให้ข้อมูล

จากกรณีนายวิทยา คุณโรจน์วิมุติ ตัวแทนผู้เสียหาย เข้าแจ้งความต่อ สภ.เมืองนครพนม หลังที่ได้รับพระเครื่องมาจาก น.ส.กาญจนา (ชื่อสมมุติ) นักธุรกิจสาวใหญ่ โดยผู้เสียหายได้นำนาฬิกาหรู ยี่ห้อปาเต๊ะ รวมไปถึงเครื่องเพชร และสิ่งของแบรนด์เนม รวมมูลค่ากว่าสิบล้านไปแลกเปลี่ยน  

แต่ภายหลังกลับตรวจสอบพบว่าพระเครื่องที่ได้รับมาเป็นพระปลอม จึงได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก

ล่าสุดพ.ต.ท.ธานินทร์ กันภัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม  ได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายเรียกนักธุรกิจสาวใหญ่ในความผิดฐาน ฉ้อโกง

\'ผู้เสียหาย\' ร้องตร. สาวนามสกุลดัง  หลอกแลกพระเก๊-นาฬิกาหรู สูญนับ10ล้าน

 

จากการสอบถามผู้เสียหาย ได้เล่าว่า ตนเองได้รู้จักกับ นางกาญจนา(นามสมมุติ) จากการเข้าอบรมหลักสูตรการ พตส.ซึ่งเป็นหลักสูตรที่หน่วยงานราชการจัดขึ้น ระหว่างการอบรมหลักสูตรดังกล่าวได้มีการติดต่อพูดคุยกันผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์เรื่อยมา มีการพูดคุยชักจูงให้เชื่อใจว่าตนเป็นญาติกับพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองค์มนตรีและรัฐบุรุษ เช่น ใช้คำว่า คุณตาเปรม และอ้างว่าได้รับพระเครื่องจากมือคุณตาเปรม และมอบให้กับตนโดยอ้างว่าพระเครื่องมีมูลค่าสูงมาก และเนื่องจากได้อ้างว่า เป็นหลานคุณตาเปรม ตนเองจึงได้แนะนำช่องทางการทำธุรกิจให้และมอบนาฬิกาหรู ยี่ห้อปาเต๊ะ

อีกทั้งยังมีเครื่องเพชร และสิ่งของแบรนด์เนมเป็นการตอบแทน  แต่พอตนเองนำพระเครื่องไปตรวจสอบกับพบว่า พระเครื่องที่ได้มานั้น เป็นของปลอมซึ่งได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

\'ผู้เสียหาย\' ร้องตร. สาวนามสกุลดัง  หลอกแลกพระเก๊-นาฬิกาหรู สูญนับ10ล้าน

อย่างไรก็ตามทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้ส่งหนังสือขอตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร ไปยังที่ว่าอำเภอเมืองนครพนม เพื่อตรวจสอบความเป็นเครือญาติ ของ น.ส.กาญจนา(นามสมมุติ)กับ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร ทะเบียนครอบครัว ทะเบียนชื่อบุคคล ไม่พบว่ามีความเกี่ยวพันเป็นเครือญาติกับ พลเอก เปรม  และนามสกุลที่ผู้ต้องหาใช้อยู่นั้นก็เป็นนามสกุลของสามีที่ได้หย่าขาดกันไปแล้ว ทั้งยังพบประวัติการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อนามสกุล และประวัติการหย่าอีกหลายครั้งอีกด้วย