นายกฯ ดัน น่าน เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม คู่หลวงพระบาง สปป.ลาว
นายกฯ สนับสนุนน่านเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม พร้อมมุ่งสร้างความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวกับเมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ยกระดับศักยภาพสนามบินน่าน ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ สร้างโอกาส เพิ่มรายได้ให้จังหวัดท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว
วันนี้ (11 มิ.ย.67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งขับเคลื่อนให้จังหวัดน่านเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม สร้างความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวกับเมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ยกระดับสนามบินน่าน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้น พร้อมเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวจังหวัดน่านสู่ระดับสากล สร้างโอกาสเเละรายได้ให้จังหวัดท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ซึ่งมีมติเห็นชอบหลักการในโครงการ "น่านเมืองเก่ามีชีวิต สร้างสรรค์ เมืองแห่งวัฒนธรรมสู่มรดกโลก" ซึ่งมีทั้งหมด 2 โครงการย่อย ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดน่าน (สวจ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จะดำเนินการในปี 2567 นี้ ได้แก่
1. โครงการสร้างการรับรู้และความเข้าใจประวัติศาสตร์มรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดน่านสู่มรดกโลก และ 2. โครงการศึกษาแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อขับเคลื่อนจังหวัดน่านสู่มรดกโลก รวมถึงเตรียมเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดน่าน เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมต่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization : UNESCO)
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้วยศักยภาพที่จังหวัดน่าน เป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ร่ำรวยทางศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และมีพื้นที่ร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดีในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งเคยมีการสำรวจ ขุดค้น และค้นพบข้าวของเครื่องใช้ เช่น เครื่องมือหิน เตาเผาโบราณ บ่อเกลือสมัยโบราณ โครงกระดูกของมนุษย์ยุคโบราณ รวมถึงมีวัดสำคัญต่าง ๆ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวในข้อสั่งการการประชุม ครม. ครั้งล่าสุด (11 มิถุนายน 2567) เน้นย้ำถึงแนวทางการเร่งรัดผลักดันให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะเลขานุการคณะกรรมการมรดกโลกของไทย และกระทรวงวัฒนธรรม เร่งผลักดันให้จังหวัดน่านเป็นเมืองมรดกโลกอีกแห่ง ควบคู่กับการยกระดับศักยภาพสนามบินน่าน (ท่าอากาศยานน่านนคร) ให้บินได้ในเวลากลางคืน โดยจะขับเคลื่อนให้เป็นเมืองคู่แฝดกับเมืองหลวงพระบาง ของ สปป.ลาว เพื่อให้เกิดการเดินทางที่เชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ ทั้งหลวงพระบาง และน่าน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเรื่อง 5 Countries 1 Destination ที่จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงของการเดินทางมาท่องเที่ยว ทั้งไทย และเชื่อมโยงไป สปป.ลาว มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา ด้วย
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ซึ่งมีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะ วัฒนธรรม ผ้าไทย อาหาร ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนและผลักดันจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นเมืองน่าเที่ยวของไทย ให้สามารถชูอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัดมาเป็นจุดขาย ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติให้มาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้มากยิ่งขึ้น เช่น การชิมอาหารท้องถิ่น ซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของชุมชนภายในจังหวัด เพื่อสร้างรายได้ แก่ชุมชนและจังหวัด ต่อยอดสู่การกระจายรายได้ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจพื้นถิ่นของพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่” นายชัย กล่าว