‘ก.พ.ร.’ ชูผลงาน เลิกใช้เอกสารนิติบุคคล ลดต้นทุนธุรกิจ 6,965 ล้านบาทต่อปี

‘ก.พ.ร.’ ชูผลงาน เลิกใช้เอกสารนิติบุคคล  ลดต้นทุนธุรกิจ 6,965 ล้านบาทต่อปี

"พิชัย" มอบนโยบายการทำงาน ก.พ.ร.กำหนดตัวชี้วัดเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ (Strategic KPI) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล และวิสัยทัศน์ IGNITE Thailand ของนายกรัฐมนตรี ก.พ.ร.ชูผลงาน เลิกใช้เอกสารนิติบุคคล ลดต้นทุนธุรกิจได้ 6,965 ล้านบาทต่อปี

นายพิชัย  ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี ประชุม ก.พ.ร. วางกรอบประเมินผลการปฏิบัติราชการปี 2568
ในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล และปรับโครงสร้างกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินภารกิจพัฒนาระบบการศึกษานอกโรงเรียนให้สามารถเรียนรู้ได้ทุกช่วงวัย

11 มิถุนายน 2567 นายพิชัย  ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน (กพม.) เพื่อพิจารณากรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ จังหวัด และองค์การมหาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

ซึ่งได้มีการกำหนดตัวชี้วัดเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ (Strategic KPI) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล และวิสัยทัศน์ IGNITE Thailand ของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายในกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ให้สามารถดำเนินภารกิจในการส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ ที่เปิดกว้างให้กับประชาชนทุกช่วงวัย

‘ก.พ.ร.’ ชูผลงาน เลิกใช้เอกสารนิติบุคคล  ลดต้นทุนธุรกิจ 6,965 ล้านบาทต่อปี

นายพิชัย  ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเสริมถึงการปรับโครงสร้างกรมส่งเสริมการเรียนรู้ว่า เป็นการปรับปรุงบทบาทภารกิจ ให้หน่วยงานสามารถจัด ส่งเสริม สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต และเปิดโอกาสให้ประชาชน ทุกเพศทุกวัยมีโอกาสเรียนรู้และเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ ได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติ

เพื่อให้คนไทย พร้อมมีทักษะการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิตที่สอดคล้องและเท่าทันพัฒนาการของโลก และมีโอกาสพัฒนา เพิ่มพูนหรือปรับเปลี่ยนทักษะของตนตามความถนัดและความจำเป็น โดยผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาความรู้ที่สนใจได้ง่ายจากหลายช่องทาง ทำให้การเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Self-learning) มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ โดยสำนักงาน ก.พ.ร. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อลดการใช้สำเนาเอกสาร และไม่เรียกเอกสารที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจากประชาชนหรือผู้ประกอบการ เช่น หนังสือรับรองนิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ และบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ซึ่งจะเป็นการลดภาระของผู้รับบริการอย่างมาก

 นายพิชัย ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลจากการยกเลิกการเรียกรับเอกสารนิติบุคคล อันเนื่องมาจากการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าว จะลดการทำธุรกรรมของประชาชนกับภาครัฐ จำนวน 8.8 ล้านธุรกรรม และทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายได้
6,965 ล้านบาทต่อปี และจะเป็นก้าวสำคัญของการก้าวไปสู่รัฐบาลดิจิทัล ทำให้ภาครัฐมีการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ
โปร่งใส และตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง