อัปเดต บุก 6 จุดกรุงเทพ แก๊งหลอกคนแก่วัยเกษียณลงทุน 200 ล้าน อ้างคนดังรวบ 30 คน
อัปเดตล่าสุด ตำรวจบุก 6 จุดกลางกรุงเทพ แก๊งหลอกคนแก่วัยเกษียณลงทุน 200 ล้าน อ้างคนดังรวบ 30 คน รูปแบบเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ยึดของกลางเพียบ
ตำรวจไซเบอร์ บุกเข้าตรวจค้น 6 จุดกลางกรุงเทพ แก๊งอ้างคนดังโจรออนไลน์ รูปแบบเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ หลอกวัยเกษียณลงทุน รวบผู้ต้องหากว่า 30 ราย ยึดของกลางเพียบ
อัปเดต สืบเนื่องจาก บก.สอท.3 ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายเป็นกลุ่มผู้สูงอายุหลายรายว่า ถูกคนร้ายหลอกให้ลงทุน ผ่านแอปพลิเคชันชื่อ "PENFOLD" และผ่านแอปพลิเคชันชื่อ "IBTM" จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบรับแจ้งความออนไลน์ พบว่า มีคดีลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วประมาณ 40 เคสไอดี รวมมูลค่า ความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท
พฤติการณ์ของคนร้ายมักสร้างเฟซบุ๊กปลอมแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงด้านการลงทุน หรือใช้วิธีการแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเฟซบุ๊กจริงที่เกี่ยวกับการลงทุน
คนร้ายจะติดต่อเหยื่อเพื่อแนะนำหรือชักชวนให้เหยื่อลงทุนกับคนร้าย หากเหยื่อหลงเชื่อ คนร้ายจะให้เหยื่อ แอดไลน์ส่วนตัวเพื่อสอนวิธีการเทรดหุ้น โดยคนร้ายสร้างตัวตนในไลน์ว่าเป็นผู้ช่วยด้านการลงทุน
จากนั้น ให้เหยื่อดาวน์โหลด และติดตั้งแอปพลิเคชัน ที่เกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งคนร้ายได้สร้างปลอมขึ้นมา แล้วหลอกให้เหยื่อโอนเงินมาลงทุนเป็นระยะ จำนวนหลายครั้ง
หากเหยื่อต้องการถอนเงิน คนร้ายจะอ้างเหตุผลต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มก่อนถึงจะถอนเงินได้ แต่ท้ายที่สุด ก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้จริง
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ส่งทีมเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนสอบสวน
โดยได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3, พ.ต.อ.คมสันต์ กันหา ผกก.4 บก.สอท.1 และ พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 นำกำลัง
ออกร่วมปฏิบัติการ จนสามารถสืบสวนเส้นทางการเงินพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การขออำนาจศาล ออกหมายจับกลุ่มคนร้ายได้จำนวน 66 หมายจับ และได้ขอหมายค้นต่อศาลเพื่อทำการตรวจค้นเป้าหมายได้สำเร็จ
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 6 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้จำนวน 30 ราย
- กลุ่มแอดมิน
- ผู้จัดหาบัญชีม้า
- บัญชีม้า
โดยมีผู้ต้องหาสำคัญคือ
- น.ส.ปานชีวันฯ อายุ 33 ปี
- น.ส.ชานิภาฯ อายุ 39 ปี
ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับชาวจีนระดับหัวหน้าขององค์กร โดยทั้ง 2 คนทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาบัญชีม้าและจัดหาคนเข้ามาทำงานในองค์กร โดยวิธีการประกาศรับสมัครงานผ่านทางเฟซบุ๊ก
จ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจยึดเครื่อง คอมพิวเตอร์ จำนวน 14 เครื่อง โทรศัพท์ จำนวน 6 เครื่อง เอกสารการรับสมัครงาน สมุดบัญชีธนาคาร เอกสารสคริปต์บทสนทนาของคนร้ายที่เตรียมไว้สำหรับหลอกเหยื่อ และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ กระทำผิดอีกหลายรายการ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,
- เป็นอั้งยี่,
- ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,
- สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐาน ฟอกเงิน
- ได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้พบกัน,
- ร่วมกันฟอกเงิน
นำตัวผู้ต้องหาและของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมนำเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จากการตรวจค้น ส่งตรวจพิสูจน์เพื่อหาพยานหลักฐาน เพิ่มเติม และเร่งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ