ยึดทรัพย์ 160 ล้าน ปส. ลุยขบวนการค้ายาเสพติด 3 เครือข่าย อายัดกว่า 3.6 พันล้าน

ยึดทรัพย์ 160 ล้าน ปส. ลุยขบวนการค้ายาเสพติด 3 เครือข่าย อายัดกว่า 3.6 พันล้าน

ปราบแก๊งค้ายา ยึดทรัพย์ 160 ล้าน ตำรวจ ปส. ลุยขบวนการค้ายาเสพติด 3 เครือข่าย อายัดกว่า 3.6 พันล้าน หลังสกัดจับเปิดปฏิบัติการปิดล้อม

ตรวจสอบผลปราบแก๊งค้ายา ยึดทรัพย์ 160 ล้าน ตำรวจ ปส. ลุยขบวนการค้ายาเสพติด 3 เครือข่าย อายัดกว่า 3.6 พันล้าน หลังสกัดจับเปิดปฏิบัติการปิดล้อม

การปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับอย่างจริงจังทุกพื้นที่รวมทั้งการขยายผลเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้า ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ

ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ

  1. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร.
  2. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา,
  3. พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี,
  4. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี
    ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.

วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น.

  • พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.,
  • พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.,
  • พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล,
  • พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว,
  • พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ,
  • พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส.,
  • พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ บช.ปส.,
  • พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1,
  • พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2,
  • พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3,
  • พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4,
  • พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส.
  • พล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. 

ร่วมแถลงผลการปราบปรามยาเสพติดที่สำคัญของ บช.ปส. ในห้วงของวันที่ 9 – 30 มิถุนายน 2567  โดยจับกุมได้หลายเครือข่าย จับผู้ต้องหา 22 คน ยึดทรัพย์ได้กว่า 160 ล้านบาท

ผลการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 

บก.สกส. จับกุมคดียาเสพติด 4 คดี ผู้ต้องหา 14 คน พร้อมของกลางยาบ้า 17,040,000 และ ไอซ์ 200 กิโลกรัม ตำรวจ สกส.บช.ปส. ได้ตรวจสอบพบจุดที่รับยาเสพติดและผู้ร่วมขบวนการอยู่ในพื้นที่ จว.พะเยา และ จว.เชียงราย

จึงขยายผลตรวจสอบเพื่อยึดอายัดทรัพย์สิน และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นที่มาของการเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น DID ATTACK 67 จำนวน 4 เครือข่าย 10 จุดตรวจค้น เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567

ซึ่งตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ กก.ปพ.บช.ปส. และตำรวจภูธรภาค 5 นำกำลังเข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด รายสำคัญ 4 เครือข่าย จำนวน 10 จุดตรวจค้น ในพื้นที่ จว.พะเยา และจว.เชียงราย สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 คน คือ

  1. น.ส.โสรยา บุคคลตามหมายจับ 3 หมายจับ,
  2. นายวันรพ บุคคลตามหมายจับ 1 หมายจับ
  3. นายจักรกฤษ บุคคลตามหมายจับ 1 หมายจับ

ในข้อหา

  • สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแร้งเกี่ยวกับยาเสพติด
  • ได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน 

สามารถตรวจยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่าย 150 รายการ

  1. อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น จำนวน 2 คูหา,
  2. บ้านพร้อมที่ดิน 3 หลัง,
  3. ที่ดิน จำนวน 24 แปลง,
  4. รถยนต์ จำนวน 6 คัน,
  5. รถแทรกเตอร์ 1 คัน,
  6. รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน,
  7. บัญชีธนาคาร จำนวน 10 บัญชี,
  8. ทองคำรูปพรรณ จำนวน 3 เส้น,
  9. อาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก,
  10. กระสุนปืน จำนวน 96 นัด
  11. และ อื่น ๆ
    รวมมูลค่ายึดทรัพย์กว่า 115,587,000 บาท

บก.ปส.3 ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “ล้างบางองค์กรยานรก” สืบเนื่องหลังจับกุมคดียาเสพติด 5 คดี ผู้ต้องหา 19 คน พร้อมยาบ้า 21,850,000 เม็ด ไอซ์ 300 กิโลกรัม ในพื้นที่ จว.เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก สุพรรณบุรี และปทุมธานี

ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 จึงขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการและยึดทรัพย์สิน จนนำไปสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่าย จำนวน 20 จุดตรวจค้น ในพื้นที่ ภ.5, ภ.9 และ กทม. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 คน ของกลางยาบ้า 4,279 เม็ด, ไอซ์ 50 กรัม ยึดอายัดทรัพย์สินเป็น สิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดิน 5 รายการ, รถยนต์จำนวน 3 คัน, ทองรูปพรรณ 12 รายการ, อาวุธปืน 9 กระบอก และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 23,687,900 บาท ฯลฯ 

ทั้งนี้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 – 2 กรกฎาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ

  • 1,076 คดี
  • ผู้ต้องหา 1,436 คน
  • ของกลางเป็นยาบ้า 327,433,971 เม็ด,
  • ไอซ์ 7,326 กก.,
  • เฮโรอีน 406 กก.,
  • คีตามีน 2,109 กก.
  • ยาอี 2,005 เม็ด 

ทั้งนี้ ยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบมูลค่า ประมาณ 3,616 ล้านบาท หรือ 3.6 พันล้านบาท