เงินดิจิทัล 10000 ลงทะเบียน ยืนยันตัวตน 1 ส.ค. รีบโหลดด่วนแอป ทางรัฐ รอรับเงิน
เตรียมตัว! 1 ส.ค.นี้ ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10000 บาท เช็กที่นี่ วิธีโหลดแอปฯ ทางรัฐ รอรับเงินหมื่น ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องลงทะเบียน ยืนยันตัวตน เพื่อรับสิทธิ์ดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่?
ความคืบหน้า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) เตรียมตัวให้พร้อม วันที่ 1 สิงหาคม นี้ ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10000 ลงทะเบียนยืนยันตัวตน ผ่านแอปฯ ทางรัฐ รีบโหลด แอปทางรัฐ ไว้รอรับเงินหมื่นได้เลย ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช็กด่วน ต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หรือไม่
ขั้นตอนการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ ทางรัฐ แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
- รูปแบบที่ 1 การยืนยันตัวตนและลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567
- รูปแบบที่ 2 การยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" มาก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2567 แล้วจึงค่อยมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 ซึ่งจะทำให้คงเหลือขั้นตอนลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นไป ที่ง่ายและรวดเร็วกว่า
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"
- แอปพลิเคชัน App Store สำหรับระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ดาวน์โหลดได้ที่ (คลิก)
- แอปพลิเคชัน “Google Play” สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ดาวน์โหลดได้ที่ (คลิก)
"ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ต้องลงทะเบียน "ดิจิทัลวอลเล็ต" เพื่อรับสิทธิ์ เงินดิจิทัล 10000 บาท หรือไม่?
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวบิดเบือนว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet และกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเงินดิจิทัลโอนเข้าบัตรประชาชนโดยอัตโนมัติ นั้น ขอยืนยันว่า "ไม่เป็นความจริง"
ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีจำนวน 14.98 ล้านคนทั่วประเทศ จะต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตนเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ เงินดิจิทัล 10000 บาท โดยหากอยู่ในกลุ่มผู้ที่มีสมาร์ตโฟน สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567
ในส่วนของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ไม่มีสมาร์ตโฟนนั้น จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนยืนยันตัวตนเข้าร่วมโครงการฯ ในระหว่างวันที่ 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567 ณ สถานที่ที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งจะมีการแจ้งระบุสถานที่อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
"ขอย้ำอีกครั้งว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำเป็นต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตนเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ก่อนที่จะได้รับสิทธิ์เติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน Digital Wallet 1111 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง" นายประเสริฐ กล่าว
เปิดจุด Walk-in กว่า 5,000 แห่ง ช่วยลงทะเบียน เงินดิจิทัล 10000 บาท ทั่วประเทศ
สำหรับ ผู้ที่มีสมาร์ทโฟน แต่ต้องการความช่วยเหลือให้การลงทะเบียนฯ รัฐบาลได้กำหนดสถานที่จุดให้บริการ (Walk-in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เงินดิจิทัล 10000 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ดังนี้
- ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ
- ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง ทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
- ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ
- ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสอบถามข้อมูล และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่จุดบริการจำนวนรวม 5,199 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาล โดยกระทรวงดีอี กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้บริการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนตามระยะเวลาทำการ
คุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเงินเงินดิจิทัล 10000 บาท
- ประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (15 กันยายน 2567)
- ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566
- ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท
โดยตรวจสอบข้อมูลเงินฝาก 6 ประเภท ได้แก่ (1) เงินฝากกระแสรายวัน (2) เงินฝากออมทรัพย์ (3) เงินฝากประจำ
(4) บัตรเงินฝาก (5) ใบรับเงินฝาก และ (6) ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อ (1) - (5)
- ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
- ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
กำหนดการเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet
- การลงทะเบียนประชาชนทั่วไป : ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 จะดำเนินการผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" บนสมาร์ตโฟน โดยไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่วมใช้สิทธิ์ในโครงการฯ ดังนั้น ประชาชนทุกคนที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและมีคุณสมบัติครบถ้วน ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งรัฐบาลได้ประมาณการไว้จำนวน 45 - 50 ล้านคน
- การลงทะเบียนประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน : ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการให้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ในระยะต่อไป โดยจะให้มีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด (ระหว่างวันที่ 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567) ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ สถานะบุคคล และที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เช่นเดียวกับกลุ่มผู้มีสมาร์ตโฟน สำหรับส่วนของการใช้จ่ายนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชน แต่การใช้สิทธิซื้อสินค้าจากร้านค้าจะทำได้ในวงแคบกว่าการใช้สิทธิของประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน ดังนั้น การลงทะเบียนผ่านสมาร์ตโฟนจะสามารถใช้งานได้สะดวกกว่า จึงแนะนำให้พยายามลงทะเบียนผ่านทางสมาร์ตโฟนก่อนเป็นอันดับแรก
- การลงทะเบียนร้านค้า : ในเบื้องต้นกำหนดไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ซึ่งจะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมเพื่อแจ้งเกี่ยวกับคุณสมบัติของร้านค้า ช่องทางและวิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ และเงื่อนไขอื่นๆ ให้ทราบต่อไป
การใช้จ่ายในโครงการฯ ดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท
- เริ่มใช้จ่ายได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2567
เงื่อนไขการใช้จ่าย
- การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า : ประชาชนจะสามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น และในการซื้อสินค้า หากประชาชนมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในอำเภอใด ก็ต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าในอำเภอเดียวกันเท่านั้น และต้องซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) ซึ่งคำว่าซื้อขายแบบพบหน้านี้ จะมีการตรวจสอบ (1) ที่อยู่ของร้านค้าตามที่ลงทะเบียนโครงการฯ (2) ที่อยู่ของประชาชนตามทะเบียนบ้านในขณะที่ลงทะเบียนโครงการฯ และ (3) พิกัดที่อยู่ของประชาชนในขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้าต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกัน การชำระเงินจึงจะสมบูรณ์
- การใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า : ร้านค้าทุกประเภทสามารถซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ และไม่มีการกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) จึงซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ แม้จะอยู่ต่างพื้นที่
ประเภทสินค้าที่เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซื้อได้-ซื้อไม่ได้
สินค้าทุกประเภทสามารถเข้าร่วมโครงการฯได้ ยกเว้น! สินค้า Negative List (ไม่สามารถซื้อได้) ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชา และกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์อาจพิจารณาแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้า Negative List เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ การใช้จ่ายภายใต้โครงการฯ จะไม่รวมถึงบริการต่างๆ
สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเตรียมการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นข้อมูลโดยตรงจากรัฐบาล ที่เชื่อถือได้ ในเว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านศูนย์บริการข้อมูลโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โทรสายด่วน Digital Wallet 1111 พร้อมให้บริการและคำแนะนำปรึกษาแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง