เตือน 13 จว. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ถึง 8 ส.ค. 67 เช็กพื้นที่เสี่ยง
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศแจ้งเตือน 13 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม ถึงช่วงวันที่ 8 ส.ค. 67
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่า ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบนและ สปป.ลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง จะทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 2 – 8 สิงหาคม 2567 ดังนี้
พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ
ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่
- จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่ฟ้าหลวง แม่สาย เชียงแสน เชียงของ เวียงแก่น แม่จัน ดอยหลวง เวียงเชียงรุ้ง พญาเม็งราย ขุนตาล เวียงชัย เทิง และแม่ลาว)
- จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอแม่อาย ฝาง เวียงแหง พร้าว และแม่ออน)
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ปางมะผ้า และสบเมย)
- จังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง แม่ระมาด และแม่สอด)
- จังหวัดลำปาง (อำเภอวังเหนือ และแม่ทะ)
- จังหวัดพะเยา (อำเภอภูซาง ปง เชียงคำ และดอกคำใต้)
- จังหวัดน่าน (อำเภอเมืองน่าน เฉลิมพระเกียรติ ทุ่งช้าง สองแคว บ่อเกลือ ปัว ท่าวังผา สันติสุข และแม่จริม)
- จังหวัดแพร่ (อำเภอร้องกวาง และลอง)
- จังหวัดอุตรดิตถ์ (อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และท่าปลา)
- จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอนครไทย)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่
- จังหวัดเลย (อำเภอเชียงคาน และปากชม)
- จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย ศรีเชียงใหม่ โพนพิสัย และรัตนวาปี)
- จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ ปากคาด พรเจริญ บุ่งคล้า โซ่พิสัย เซกา และบึงโขงหลง)
เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก
เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ ๘๐ บริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา น่าน พิษณุโลก เลย หนองคาย บึงกาฬ และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนน้อยที่สุด
เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ ลำน้ำงาว (อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย) แม่น้ำสาย (อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย) แม่น้ำน่าน (อำเภอเมืองน่าน เวียงสา เชียงกลาง ภูเพียง และท่าวังผา จังหวัดน่าน) แม่น้ำยม (อำเภอสอง และหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ อำเภอปง จังหวัดพะเยา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก) ลำน้ำปาด (อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์) แม่น้ำแควน้อย (อำเภอนครไทย และวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก)
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมือง
ที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน
2. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและพนังกั้นน้ำ เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ อาคารชลศาสตร์ให้พร้อมใช้งาน และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ
3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก น้ำในลำน้ำ รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์