ภัยสังคม! กระเทยลวงเด็กตกเป็นทาสตัณหา บังคับถ่ายคลิปอนาจารนานนับปี

ภัยสังคม! กระเทยลวงเด็กตกเป็นทาสตัณหา บังคับถ่ายคลิปอนาจารนานนับปี

ปล่อยไว้ไม่ได้ภัยสังคม! กระเทยลวงเด็กตกเป็นทาสตัณหา บังคับถ่ายคลิปอนาจารนานนับปี ตำรวจไซเบอร์บุกรวบ เจอข้อหาหนักค้ามนุษย์

กรณีกระเทยล่อลวงเด็กตกเป็นทาสตัณหา บังคับถ่ายคลิปอนาจารนานนับปี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา บิดาของเด็กผู้เสียหายเข้าติดต่อขอความช่วยเหลือกับ พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. (TICAC) ที่ตึกที่ทำการ บช.สอท. เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

โดยได้ขอให้ช่วยเหลือกรณีบุตรชายตนเองอายุ 17 ปี ถูกคนร้ายล่อลวงให้ผลิตสื่อลามกอนาจารมานานนับปี โดนบังคับให้ถ่ายคลิปเปลือยกาย ในลักษณะลามกอนาจารทุกวัน วันละหลายครั้ง

หากคนร้ายอยากได้คลิปเมื่อไหร่ ผู้เสียหายต้องถ่ายส่งให้ได้ แต่ล่าสุด เด็กผู้เสียหายไม่ยอมส่งภาพให้ตามที่คนร้ายต้องการ คนร้ายจึงได้นำคลิปของผู้เสียหายไปประกาศขายในแอปพลิเคชัน Instagram

ส่งผลให้เด็กมีอาการซึมเศร้า เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าสังคม และไม่กล้าไปโรงเรียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนหาตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายเป็นการเร่งด่วน

เนื่องจากเป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อสังคม ยิ่งปล่อยไว้นานจะยิ่งทำให้สภาพจิตใจผู้เสียหายย่ำแย่ลงกว่าเดิม

จึงมอบหมายให้ พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กฯ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด TICAC ลงพื้นที่สืบสวนด้วยตัวเอง

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ทำให้ทราบว่า ผู้เสียหายได้เริ่มรู้จักกับคนร้ายทางแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์) ต่อมาเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่การพูดคุยกันในลักษณะเชิงชู้สาว เมื่อผู้เสียหายเริ่มชอบพอและไว้ใจ จึงนำไปสู่การลวงให้ส่งภาพและคลิปอนาจารในเวลาต่อมา

โดยจากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ ทำให้ทราบตัวผู้ก่อเหตุ และยังพบว่า คนร้ายที่ทำหน้าที่ล่อล่วงผู้เสียหายให้ส่งภาพลามกอนาจาร และคนร้ายที่นำคลิปดังกล่าวไปจำหน่าย คือคนคนเดียวกัน และจากการตรวจสอบข้อมูลอาชญากรรมของผู้ก่อเหตุ ยังพบว่าเคยถูกจับในคดีที่เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารมาก่อนแล้วด้วย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายค้นได้สำเร็จ

กระทั่งเมื่อช่วงสายของวันที่ 2 ส.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรีที่ 323/2567 เข้าตรวจค้นห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านบางแค ถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

จากการเข้าตรวจค้น พบนายกันตเมศฐ์ อายุ 24 ปี สาวประเภทสองหรือกระเทย พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวน 3 รายการ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ iPhone 14 Pro Max จำนวน 1 เครื่อง, iPad Pro จำนวน 1 เครื่อง และ นาฬิกา Apple Watch Series 6 จำนวน 1 เครื่อง

โดยจากการที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลภายในอุปกรณ์ดังกล่าว พบว่ามีสื่อลามกอนาจารเด็กจำนวนมาก และยังพบข้อมูลบัญชีสื่อโซเชียลที่ใช้ในการล่อล่วงและบังคับผู้เสียหาย พร้อมข้อมูลและช่องทางที่ใช้จำหน่ายสื่อลามกอนาจารเด็กของผู้เสียหาย นอกจากนี้

นายกันตเมศฐ์ ยังมีการรวบรวมไฟล์สื่อลามกอนาจารเด็กอีกปริมาณกว่า 200 GB เก็บไว้ใน Cloud อีกด้วย

จากการสอบถาม ผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำมาแล้วหลายปี มีเด็กตกเป็นเหยื่อในการบังคับถ่ายคลิปมาแล้วหลายคน หากใครไม่ยอมทำตาม ตนก็จะขู่นำสื่อลามกอนาจารที่เคยได้มาไปจำหน่าย

ทำให้เด็กไม่กล้าขัดขืน ต้องยอมทำตามที่ตนสั่งมานานนับปี ซึ่งจากข้อมูลในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของกลาง เจ้าหน้าที่พบว่ายังมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออีกจำนวนหลายราย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่

  • กระทำการค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุสื่อลามก
  • นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
  • ครอบครอง และส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
  • เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้าหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก

และหากพบหลักฐานการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประสานให้ความช่วยเหลือเด็กรายอื่นๆที่ตกเป็นเหยื่อในลักษณะดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ หากมีผู้ปกครองท่านใดพบว่าบุตรหลานของตนตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ TICAC หรือ www.facebook.com/TICAC2016 ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น หรือ หากมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง