“ศุภมาส” สั่งเฉียบขาดหาคนรับผิดชอบ รับน้องโหด มทร.สุวรรณภูมิ

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรงมาก ตนรับไม่ได้ ที่ผ่านมาเคยมีการสั่งการให้แต่ละสถาบันกวดขันดูแลเรื่องการรับน้องให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่ก็ยังมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

ดังนั้น ต้องมีคนรับผิดชอบ จึงได้สั่งการให้ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. พร้อมด้วย ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. และนายวันนี นนท์ศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว. ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับ มทร.สุวรรณภูมิ ทันที 

พร้อมเรียกประชุมโดยด่วนกับอธิการบดีและผู้บริหารของสถาบัน รวมถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ มทร.สุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนทบุรี 

“ขอยืนยันว่าจะหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ขณะเดียวกันก็จะหาทางเยียวยานักศึกษาและครอบครัวที่ถูกทำร้าย ที่สำคัญ หลังจากนี้ จะต้องมีการยกระดับมาตรการป้องกันและดูแลความปลอดภัยให้กับนักศึกษา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก” น.ส. ศุภมาส กล่าว

 น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษาฯ  พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีนักศึกษาของ มทร.สุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนทบุรี ถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายหลังไปขอลาออกจากระบบรับน้องโหด และขอย้ายคณะ

โดยได้เข้าประชุมกับ ผศ.ดร.ภาสพิรุฬห์ วัชรศรีสำเริง รองอธิการบดี รักษาการแทนอธิการบดี มทร.สุวรรณภูมิ และผู้บริหาร มทร.สุวรรณภูมิ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ มทร.สุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนนทบุรี

จากนั้นได้เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่นักศึกษา และพ่อถูกรุ่นพี่รุมทำร้าย ก่อนที่ น.ส.สุชาดา จะให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้น มทร.สุวรรณภูมิ ได้ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่นักศึกษารุ่นพี่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับรุ่นน้องตามที่เป็นข่าว เป็นการจัดกิจกรรมนอกสถานศึกษา ซึ่งจะต้องเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นการจัดกิจกรรมรับน้องหรือไม่
 
หากเป็นการฝ่าฝืนจัดกิจกรรมรับน้องจริง ก็จะดำเนินการตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2551 ซึ่งที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยได้มีข้อบังคับ ประกาศ นโยบายและมาตรการในการดำเนินกิจกรรมการรับน้องอย่างเคร่งครัด โดยไม่ให้จัดกิจกรรมนอกสถานศึกษา เพื่อความปลอดภัยของนักศึกษาตามนโยบายกระทรวง อว. มาโดยตลอด 

นอกจากนี้ เรื่องดังกล่าวต้องแยกเป็นอีกประเด็นคือเรื่องของการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกันในสถานศึกษา หลังจากที่มีการมาขอลาออกจากระบบรับน้องและขอย้ายคณะ

ซึ่งเหตุดังกล่าวถือเป็นความผิดที่ชัดเจน เพราะมีพยานหลักฐาน มีกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน  โดยที่ประชุมได้มีมติให้มหาวิทยาลัยรายงานผลการตรวจสอบมายังกระทรวง อว.ภายในวันที่ 19 ส.ค. นี้

เลขานุการ รมว.กระทรวง อว.กล่าวต่อว่า โดยทั้ง 2 ประเด็นที่เกิดขึ้นคือเรื่องการจัดกิจกรรมรับน้องและการทะเลาะวิวาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการดำเนินสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการกฎหมายควบคู่ไปด้วย

และหากพบว่านักศึกษารุ่นพี่กลุ่มดังกล่าวกระทำความผิดจริง จะไม่มีการละเว้นและจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ซึ่งมีโทษถึงไล่ออกทันทีพร้อมดำเนินคดีด้วย

“เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น ท่านรัฐมนตรี อว.มีความห่วงใยและต้องการให้เร่งหาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ รวมทั้งมีความจริงจังในการจัดการกับปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ และจะมีการยกระดับมาตรการการป้องกัน โดยภายในสัปดาห์หน้าจะมีการเรียกประชุมมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำและไม่ให้เกิดขึ้นอีกในสถานศึกษา” น.ส.สุชาดา กล่าว.