รู้จัก BRT โฉมใหม่ ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% นั่งฟรี ถึง 31 ต.ค. 67
ทำความรู้จักกับ BRT โฉมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ให้บริการฟรี 2 เดือน ตั้งแต่ 1 ก.ย. ถึง 31 ต.ค. 67
จากกรณีสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดให้เอกชนยื่นซองประมูลโครงการพัฒนาระบบการเดินรถด่วนพิเศษ (BRT) สายสาทร-ราชพฤกษ์ และได้ประกาศผู้ชนะการประมูล คือ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอสซี) โดยมีระยะสัญญาจ้าง 5 ปี
เพจเฟซบุ๊ก รถไฟฟ้าบีทีเอส ได้ออกมาโพสต์ภาพบรรยากาศการ BRT-EV โฉมใหม่ให้บริการวันแรก ซึ่งมีการให้บริการในเส้นทางสาทร – ราชพฤกษ์ พร้อมทั้งระบุว่า “BRT-EV เป็นรถโฉมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ภายในรถจะค่อนข้างเงียบ”
ทำความรู้จักกับ BRT โฉมใหม่
รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT โฉมใหม่ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% นี้ จะเริ่มให้บริการในวันที่ 1 กันยายน 2567 เป็นวันแรก ในระหว่างเวลา 06.00 – 22.00 น. โดยให้บริการฟรีเป็นระยะเวลา 2 เดือน (1 ก.ย. – 31 ต.ค. 2567) สจส. จึงชวนทุกท่านมาร่วมทำความรู้จักกับ BRT โฉมใหม่นี้ไปด้วยกัน
- ลักษณะของรถโดยสารรูปแบบใหม่เป็นแบบ Low floor พื้นที่ทางเข้า-ออก และตัวรถโดยสารมีระดับความสูงจากระดับผิวถนน 34 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้โดยสารขึ้นลงรถได้สะดวกปลอดภัย และเพื่อให้สามารถปรับเส้นทางรับ-ส่งผู้โดยสารบริเวณป้ายรถประจำทางได้อีกด้วย ปัจจุบันได้จัดทำชานรับ - ส่ง (ชั่วคราว) ซึ่งมีลักษณะต่ำรองรับการใช้งาน
- เป็นรถโดยสารปรับอากาศที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % แก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้จัดเตรียมรถไว้พร้อมให้บริการทั้งสิ้น 23 คัน
- มีประตูเข้า-ออก เพิ่มขึ้น ฝั่งซ้ายจำนวน 2 ประตู และฝั่งขวาของตัวรถโดยสารอีก 1 ประตู
- ถูกออกแบบให้มีทางลาดทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อรองรับการใช้งานของรถเข็นผู้พิการ (Wheel chair) ให้ใช้บริการได้อย่างสะดวก
- อุ่นใจด้วยการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด CCTV จำนวน 5 ตัวภายในรถโดยสาร เพื่อจับภาพบริเวณตำแหน่งเครื่องจัดเก็บค่าโดยสาร และเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยภายในรถโดยสารอีกด้วย
- มีการติดตั้งระบบ GPS เพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งรถผ่านแอพพลิเคชัน และมีจอแสดงข้อมูลตำแหน่งรถโดยสารเพื่อแจ้งข้อมูลแก่ผู้ใช้บริการ
- มีจำนวนที่นั่งผู้โดยสารขนาดมาตรฐาน 30 ที่นั่ง อุปกรณ์ราวจับสำหรับพื้นที่ยืน และมีพื้นที่รองรับรถเข็นผู้พิการ (Wheel chair) ใกล้กับประตูเข้า-ออก
- สามารถชำระค่าโดยสารด้วยบัตรแรบบิท หรือสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยจะไม่มีช่องทางการจำหน่ายบัตรโดยสาร
นอกจากนี้ BRT ยังเพิ่มจุดรับส่งใหม่ 2 สถานี คือ
- สถานีถนนจันทน์เหนือ (บริเวณแยกจันทน์ – นราธิวาส)
- สถานีถนนจันทน์ใต้ (บริเวณแยกรัชดา – นราธิวาส)
ทำให้สถานีของรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT เพิ่มขึ้นเป็น 14 สถานี คือ
- สถานี B1 : สาทร (เชื่อมต่อ BTS ช่องนนทรี)
- สถานี B2 : อาคารสงเคราะห์
- สถานี B3 : เทคนิคกรุงเทพ
- สถานี B3A : ถนนจันทน์เหนือ (สถานีใหม่)
- สถานี B4 : ถนนจันทน์
- สถานี B4A : ถนนจันทน์ใต้ (สถานีใหม่)
- สถานี B5 : นราราม 3
- สถานี B6 : วัดด่าน
- สถานี B7 : วัดปริวาส
- สถานี B8 : วัดดอกไม้
- สถานี B9 : สะพานพระราม 9
- สถานี B10 : เจริญราษฎร์
- สถานี B11 : สะพานพระราม 3
- สถานี B12 : ราชพฤกษ์ (เชื่อมต่อ BTS ตลาดพลู)
ขอบคุณที่มาจาก รถไฟฟ้าบีทีเอส