สคบ. ตรวจ ร้านทองแม่ตั๊ก เข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่ หลังเกิดกระแสดราม่าหนัก
สคบ. เข้าตรวจทอง ร้านแม่ตั๊ก เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนหรือไม่ หลังเกิดกระแสดราม่าหนัก คนแห่ขายคืน ขณะที่ ผจก.ร้าน ปัดตอบปมให้ลูกค้าเซ็นเอกสารไม่เอาผิด
วันนี้ (24 ก.ย. 67) ความคืบหน้ากรณี ดราม่า "แม่ตั๊ก" กรกนก สุวรรณบุตร "แม่ค้าทองออนไลน์" ชื่อดังบน TikTok ที่มีลูกค้าออกมาโวยหลัง เอาทองที่ซื้อมาจากแม่ตั๊กไปขายที่ร้านทอง แต่ปรากฏว่าทางร้านทองไม่รับซื้อ เพราะไม่มีเปอร์เซ็นต์ทอง และไม่มียี่ห้อ จนขณะนี้กลายเป็นประเด็นดราม่า ซึ่งวันนี้ (24 ก.ย.) มีลูกค้าจำนวนมากแห่นำทองมาขายคืนจำนวนมาก
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา (สคบ.) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เเกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ร้านทองของแม่ตั๊ก หลังจากที่เป็นกระแสข่าว ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ สคบ. ลงมาดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ ถ้าพบว่าเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบกับประชาชนในจำนวนมาก อาจจะต้องไปดูในระเบียบว่า จะสามารถชดใช้หรือเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนในส่วนใดได้บ้าง
นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะขอนำตัวอย่างทองคำ บางส่วนไปตรวจสอบ โดยให้ความสำคัญในส่วนที่เป็นประเด็น ทั้งปี่เซี่ยะ ทองรูปพรรณ และทองชุบที่อ้างว่า เป็นทอง 99.99% ที่ระบุเอาไว้ในไลฟ์ ไปตรวจสอบก่อน ซึ่งทางเจ้าของห้างทองก็ยินดี ที่จะเข้าสู่กระบวนการ
นอกจากนี้จะตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ในส่วนของราคา ปริมาณทอง พร้อมกับดูฉลากทองว่า ทางร้านได้มีการติดฉลากถูกต้องหรือไม่ เพื่อไปเปรียบเทียบกับที่พูดในการไลฟ์สดว่า ตรงกับข้อเท็จจริง และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดหรือไม่ และต้องดูตัวทองคำที่นำมาขายว่า ตรงกับที่พูดหรือไม่ จึงจะสามารถแจ้งความเอาผิดได้
ส่วนที่มาของสินค้า ทางเจ้าของห้างทองได้ชี้แจงว่า เป็นสินค้าที่นำเข้ามา ซึ่งส่วนนี้ สคบ.ต้องมีการตรวจสอบไปถึงแหล่งที่รับซื้อ เช่นกัน โดยระยะเวลาในการตรวจสอบนั้น นายเลิศศักดิ์คาดว่าใช้เวลาไม่นาน เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏ ทั้งนี้หากประชาชนจะไปร้องเรียนสามารถไปร้องเรียนได้ที่ สคบ. หรือผ่านช่องทางออนไลน์ คือ ทางเว็บไวต์ สคบ. โดยตรง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้จัดการร้านออกมาพูดคุย และได้มีการชี้แจงกับผู้จัดการว่า จะขอส่งตัวแทน เจ้าหน้าที่เข้าไปขอเก็บตัวอย่างทองคำ โดยจะมีการบันทึกภาพหน้าร้านและภายในร้านตามขั้นตอน ซึ่งผู้จัดการก็ให้ความร่วมอย่างเต็มที่
ในขณะที่ ผู้จัดการร้าน เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้เดินทางมาขายทองคืนที่ร้านเกือบๆ 100 คน แต่เพราะมีลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก จึงก็พยามเคลียร์ลูกค้าออกให้เร็วที่สุด ทั้งนี้เราไม่อยากให้ลูกค้าต้องมารอนาน เพราะกลัวลูกค้าเสียเวลา ทั้งนี้เราพยายามทำให้ดีที่สุด เวลาทำธุรกิจเราไม่อยากให้ธุรกิจเรามีปัญหาอยู่แล้ว พยายามทำให้มันไปต่อได้ดี และแก้ไข พร้อมยินดีแล้วก็น้อมรับ หากเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
ส่วนเรื่องการขายทองคำคืนนั้น บางท่านที่มีสินค้ามาครบเราคืนเงินให้เต็มจำนวน แต่หากใครเอาสินค้าและของแถมมาไม่ครบ ก็ต้องมาคุยกับพนักงานอีกที นอกจากนี้นักข่าวยังถามถึงประเด็น มีการให้ลูกค้าเซ็นเอกสาร เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีนั้น ทางผู้จัดการไม่ได้ตอบคำถาม เดี๋ยวขอมาอีกที ขอไปเคลียร์ลูกค้าก่อน
สคบ.ระบุหากฉลากไม่ตรงกับคุณภาพทอง เข้าข่ายผิด พ.ร.บคุ้มครองผู้บริโภค
ภายหลังการตรวจสอบนานกว่า 1.30 ชม. นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา (สคบ.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางทีม สคบ. ได้มีการเก็บตัวอย่างทองรูปพรรณ อาทิ กำไลปี่เซียะ และสร้องคอที่จำหน่ายอยู่ภายในร้านไปตรวจสอบ ซึ่งจะต้องดูในเรื่องของน้ำหนัก เปอร์เซ็นต์ทอง ใบฉลากทองว่า เป็นไปตามที่มีการโฆษณาขายหรือไม่ ซึ่งการคำนวนน้ำหนักทองนั้น ต้องดูว่าเป็นทองคำอย่างเดียว หรือมีอะไรผสมอยู่หรือไม่ ส่วนถ้ากรณีของฉลากทองไม่ตรงตามคุณภาพของทองที่ขาย ก็จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะใช้เวลาไม่นาน
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้าที่ที่ร้านทอง ได้ให้ลูกค้าเซ็นเอกสารเพื่อป้องกันไม่ให้มีการดำเนินคดีกับทางร้านนั้น ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา เปิดเผยว่า ในส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีแพ่งและอาญานั้น ต่อให้มีการรับซื้อสินค้าคืน หรือเยียวยาชดใช้ให้กับผู้เสียหาย แต่ถ้าหากพบว่า คดีดังกล่าวมีความผิดตามอาญาแผ่นดิน ก็ต้องดำเนินคดีอาญาไปตามกฎหมาย ไม่ว่าผู้เสียจะเซ็นยินยอมหรือไม่ก็ตาม