'จิรายุ' รับเรื่อง ขบวนการค้าชิ้นส่วนมนุษย์ ผลิตสเต็มเซลล์ เตรียมขยายผล

'จิรายุ' รับเรื่อง ขบวนการค้าชิ้นส่วนมนุษย์ ผลิตสเต็มเซลล์ เตรียมขยายผล

“จิรายุ” ที่ปรึกษาของนายกฯ รับเรื่องร้องเรียนขบวนการค้าชิ้นส่วนมนุษย์ ผลิตสเต็มเซลล์ผิดกฎหมาย เผยพื้นที่ กทม.มีการลักลอบขายเป็นจำนวนมาก ด้านตำรวจเตรียมขยายผล เร่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันนี้ (24 ต.ค. 67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับเรื่องร้องเรียนกรณีขบวนการค้าชิ้นส่วนมนุษย์ จากนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความผู้เสียหาย

นายจิรายุ เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้วเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ซึ่งได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตนเองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะต้องรับทราบถึงขบวนการค้าชิ้นส่วนมนุษย์ 

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า จากที่ได้รับทราบข้อมูล เมื่อคุณแม่ไปคลอดลูก ส่วนมากจะไม่ได้ใส่ใจที่จะเก็บรกลูกไว้ เมื่อคุณหมออนุญาตให้กลับบ้านส่วนใหญ่ก็จะพาลูกกลับบ้าน จึงเป็นโอกาสให้บุคลากรทางการแพทย์นำรกเด็ก โดยเฉพาะรกที่มีเลือดกรุ๊ปโอไปขาย เพราะเลือดกรุ๊ปโอเป็นกลุ่มที่ทำสเต็มเซลล์ได้อย่างดี  

ซึ่งจะใช้บริการรถสาธารณะเรียกจากแอปพลิเคชันลักลอบนำส่งรกไปยังปลายทาง ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีการลักลอบขายรกเด็กเป็นจำนวนมาก 

“การขายชิ้นส่วนรกและสายสะดือ มีราคาตั้งแต่ 5,000 ถึง 10,000 บาท นี่คือราคาต้นทางก่อนที่นำชิ้นส่วนไปทำ สเต็มเซลล์ การที่ประชาชนบางส่วนฉีดสเต็มเซลล์ ก็ไม่น่าใจว่าเป็นรกที่มาจากคดีนี้หรือเปล่า” นายจิรายุ ระบุ   
 

ด้านทนายความของผู้เสียหาย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถูกเปิดจากลูกความท่านหนึ่ง ซึ่งเข้าไปเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชนเกี่ยวกับการสร้างสเต็มเซลล์ โดยไม่ทราบมาก่อนว่าการเอารกสายสะดือของแม่เด็กมาทำสเตมเซลล์ ต้องได้รับอนุญาตทางกฎหมายก่อน แต่ปรากฎว่าที่ผ่านมาได้ตรวจสอบพบ บริษัทแห่งนี้ไปเอารกและสายสะดือ ที่ไม่ได้รับความยินยอมมาทำสเต็มเซลล์ ตลอดระยะเวลา 7-8 ปี 

ดังนั้น เมื่อทราบว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงลาออกจากบริษัทและถูกนายจ้างแจ้งความดำเนินคดีทางอาญา จึงเป็นเหตุให้วันนี้ได้มายื่นหนังสือร้องเรียน เพราะต้องการหยุดยั้งกระบวนการที่ลักลอบเอารกและสายสะดือของแม่เด็กมาทำการค้า ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และต้องการที่จะหยุดยั้งกระบวนการมิจฉาชีพ ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมรายชื่อบริษัทเอกชนโรงพยาบาลต่าง ๆ คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 100 ราย ที่ได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้วกว่า 1,000 ครั้ง 

ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเร่งดำเนินการการสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานประกอบสำนวนการดำเนินคดีให้เร็วที่สุด