ดีเอสไอ บุกเรือนจำ แจ้งข้อหาเพิ่ม 18 บอส 'ดิไอคอน' แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ
ดีเอสไอ แจ้งข้อหาเพิ่ม 18 บอส "ดิไอคอน" แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ ในเรือนจำ ย้ำเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานครบ ทั้งแผนประทุษกรรม งบการเงิน เส้นทางการเงิน
วันนี้ (11 พ.ย. 67) ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เดินทางเข้าแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม 18 บอส และ 1 นิติบุคคล ผู้ต้องหาในคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ในข้อหา พ.ร.ก.กู้ยืมเงินว่าด้วยการฉ้อโกงประชาชน หรือ ข้อหาแชร์ลูกโซ่ และความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง
ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า การแจ้งข้อกล่าวหาวันนี้ สืบเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสำนวนข้อหาฉ้อโกงประชาชน และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จนกระทั่งดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ มีการสอบปากคำสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ สคบ. เกี่ยวกับพฤติกรรมในการดำเนินกิจการของ “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” จนพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม นำมาสู่การมีมติในการแจ้งข้อกล่าวหาบอสทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล เพิ่มเติม ในความผิดฐาน พ.ร.ก.แชร์ลูกโซ่ 1 ข้อหา และความผิด พ.ร.บ.ธุรกิจขายตรงฯ 2 ข้อหา คือร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่าย และร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต
ร.ต.อ.วิษณุ ยืนยันด้วยว่า ข้อหาแชร์ลูกโซ่ มีองค์ประกอบความผิด ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ สคบ. ให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวน เช่น การประกอบกิจการเป็นลักษณะผิดกฎหมาย ไม่สามารถที่จะนำเงินมาจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน หรือนำเงินมาหมุนเวียนจ่ายจริงหรือไม่ มีการสอบสวนไปถึงแผนประทุษกรรม งบการเงิน การวิเคราะห์เส้นเงิน ข้อมูลคอมพิวเตอร์หลังบ้าน จนเห็นภาพรวมของคดี ส่วนที่ทางฝั่งผู้ต้องหาต่อสู้ว่ามีสินค้าอยู่ ก็เป็นสิทธิ ซึ่งหากทนายฝ่ายนั้น มีข้อเท็จจริงตรงไหนที่มีประโยชน์ ดีเอสไอก็พร้อมรับฟัง
ส่วนประเด็นการสอบสวนบอสดารา ในข้อหาแชร์ลูกโซ่ จะแตกต่างจากบอสคนอื่นๆ หรือไม่ เพราะว่าลักษณะพฤติกรรมไม่เหมือนกัน ร.ต.อ.วิษณุ ระบุว่า ทั้งหมดมีกระบวนการของการแบ่งหน้าที่กันทำ แม้ว่าทุกคนอาจจะไม่ได้เข้าองค์ประกอบความผิดพร้อมกัน แต่เมื่อเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า หน้าที่ของแต่ละคนเมื่อรวมกันแล้วมีวัตถุประสงค์เดียวกัน ในการกู้ยืมเงินเพื่อเป็นการฉ้อโกงประชาชน
ทนายบอสพอล เตรียมเอกสารให้การแก้ข้อกล่าวหา แชร์ลูกโซ่ ให้ 18 บอสแล้ว
ด้าน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความบอสพอล เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังดีเอสไอประสานแจ้งข้อกล่าวหา 18 บอสดิไอคอน พร้อมเปิดเผยว่า ได้รับการประสานมาเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว จึงได้ให้ทีมงานช่วยกันจัดเตรียมเอกสาร เกี่ยวกับการทำธุรกิจทั้งหมด ซึ่งมีมากพอสมควร ทั้งการจัดการจากโรงงานมายังโกดัง และจากโกดังไปยังลูกค้า ส่วนที่เหลือเป็นระบบของดิไอคอน วันนี้เราก็ได้ให้คนที่เข้าระบบได้อย่าง เลขาฯ “โค้ชแลป” และ “เลขาฯ บอสพอล” แยกเข้าไปในเรือนจำ เพื่อเข้ามาเปิดระบบให้กับทางผู้ต้องหาได้ให้การได้
ส่วนวันนี้จะเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาเลย หรือสอบคำให้การด้วยนั้น นายวิฑูรย์ ระบุว่า ดีเอสไอ แจ้งว่า จะเป็นการสอบคำให้การในเบื้องต้น ตนจึงเตรียมข้อมูลมาให้แน่น เพราะคำว่าเบื้องต้นของบอสพอล ไม่มีอยู่จริง เขาอยากจะให้รายละเอียดทั้งหมด เพราะกลัวว่าจะรับเบื้องต้นไปแล้วจะตัดจบคดี และการมาสอบที่เรือนจำไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
เมื่อถามว่า เราจะให้การอย่างไรเพื่อจะพิสูจน์ข้อกล่าวหา นายวิฑูรย์ ตอบว่า แชร์ลูกโซ่องค์ประกอบคือ “ต้องไม่มีธุรกิจอยู่จริง ต้องมีการเอาเงินของลูกค้า เอาเงินของคนใหม่มาจ่ายคนเก่า และต้องไม่มีสินค้า” ซึ่งเรามั่นใจว่า ไม่เข้าองค์ประกอบนี้ วันนี้จึงจะให้ปากคำโดยละเอียด ยินดีที่จะเปิดระบบหลังบ้าน และชี้แจงให้ดูว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตนจะต้องนั่งฟังและสังเกตการณ์ด้วยยาวๆ เพราะเป็นทนายให้กับหลายบอส
ส่วนพยานที่จะเข้ามาให้ปากคำนั้น ตนได้มอบรายชื่อให้ดีเอสไอไปแล้วเบื้องต้น 700 คน ส่วนพยานผู้เชี่ยวชาญ ขอให้ตัวแทนเข้ามาให้ปากคำให้หมดก่อน เพราะรวบรวมได้จริง มีประมาณ 2,000 - 3,000 คน แต่จะให้การได้จริงหรือไม่ หรืออาจจะมีการตัดพยานไป ตนแค่ขอความเป็นธรรม แต่พยานเขาจะไม่พอใจ ไปแจ้ง ม.157 ก็ไม่ทราบได้ ส่วนพยานผู้เชี่ยวชาญจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ให้ปากคำ