ออกหมายจับ หมอบุญ พร้อมพวก ฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน ปลอมลายเซ็นกู้เงิน 8 พันล้าน
ด่วน! ตำรวจ ออกหมายจับ "หมอบุญ" ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลดัง พร้อมพวกรวม 9 คน คดีฉ้อโกงประชาชน - ฟอกเงิน - ข้อหาเช็คเด้ง ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน ล่าสุดจับแล้ว 6 คน โดยนายแพทย์บุญ เผ่นหนีต่างประเทศ ตั้งแต่กันยายน 2567 ส่วนความคืบหน้า ตำรวจนครบาล จะแถลงด่วนวันนี้
อัปเดตคดีดังล่าสุด มีรายงานด่วน! ตำรวจ ออกหมายจับ "หมอบุญ" ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลดัง พร้อมพวกรวม 9 คน คดีฉ้อโกงประชาชน - ฟอกเงิน - ข้อหาเช็คเด้ง ปลอมลายเซ็น อดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน ล่าสุดจับแล้ว 6 คน โดยนายแพทย์บุญ เผ่นหนีต่างประเทศ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ไปจีน
ส่วนความคืบหน้า ตำรวจนครบาล จะแถลงด่วนเวลา 11.00 น. วันนี้
วันนี้ 23 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำหลักฐานขอศาลอาญาออกมาจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี พร้อมภรรยา บุตรสาว และพวกรวม 9 คน เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หลังร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์
โดยมีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เอาผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534
กรณีที่ไม่สามารถนำเช็คเงินสดของนายแพทย์บุญ ไปขึ้นเงินกับธนาคารได้ มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2566 ถึงเดือนตุลาคม 2567 จำนวนกว่า 527 คน
เปิดพฤติการณ์ "หมอบุญ" คดีฉ้อโกงประชาชน - ฟอกเงิน - ข้อหาเช็คเด้ง
ข้อมูลการสืบสวนของตำรวจพบว่า ในห้วงวันที่ 2 ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2566 นายแพทย์บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ
โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ เกี่ยวกับธุรกิจการแพทย์ ศูนย์ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรงพยาบาลทั้งไทยและต่างประเทศ
โดยกลุ่มผู้ต้องหามีการชักชวนนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์ หลายร้อยคนเข้าร่วมลงทุน ในรูปแบบทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้
พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้า ในชื่อนายแพทย์บุญ โดยมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็น ผู้ค้ำประกันตามสัญญา
ในช่วงแรกให้ดอกเบี้ยกับผู้ที่เข้าร่วมลงทุนตามสัญญา แต่ต่อมาไม่ได้ชำระดอกเบี้ยตามกำหนด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ให้ก็ไม่สามารถนำไปขึ้นเงินกับธนาคารได้ จึงเป็นเหตุให้ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีจนกระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับในครั้งนี้
ศาลอาญาได้ออกหมายจับนายแพทย์บุญ 5 ข้อหา คือ
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
- ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
- ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ
- สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน
- ข้อหาเช็คเด้ง หรือออกเช็คแล้วขึ้นกับธนาคารไม่ได้
นอกจากนายแพทย์บุญ แล้ว ศาลยังได้ออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 8 คน ได้แก่
- นางสาวจิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัวนายแพทย์บุญ
- นางสาวศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน
- นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ
- นางสาวนลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ
- นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน
- นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ ผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน
- นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี เป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน ผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน
- นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา
ทั้ง 8 คน ถูกออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
รายงานระบุว่า การออกหมายจับครั้งนี้ เป็นกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของนายแพทย์บุญ ที่ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้ เพื่อกู้เงินผ่านเอเยนต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท
และมีการตั้งข้อสังเกตว่า จะมีผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์รายนี้ฉ้อโกงเงิน ผ่านการทำธุรกรรม ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างนับหมื่นล้าน กระทั่งมีกระแสว่านายแพทย์บุญ น่าจะหลบหนีคดีไปยังต่างประเทศ
ตำรวจจับผู้ต้องหาได้แล้วแล้ว 6 คน ส่วน หมอบุญ เผ่นหนีต่างประเทศ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567
ภายหลังออกหมายจับ ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เอาไว้ได้แล้ว จำนวน 6 คน
ยังเหลืออีก 3 คน คือ นายแพทย์บุญ ภรรยาและบุตรสาว ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายแพทย์บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 กันยายน 2567 ไปยังประเทศจีน ส่วนภรรยาและบุตรสาว อยู่ระหว่างตรวจสอบ
ส่วนรายละเอียดในคดีและความคืบหน้าทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะมีการแถลงข่าวในเวลา 11.00 น. ของวันนี้ (23 พ.ย.67)
อ้างอิง : nationtv