เปิดรายชื่อ 12 จว.ภาคใต้ ปภ. เตือน เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม 5 - 11 ธ.ค. 67
ปภ.แจ้ง 12 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินถล่ม น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ และน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 5 - 11 ธ.ค. 67
วันนี้ (4 ธ.ค. 67) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 12 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินถล่ม น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ และน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 5 – 11 ธ.ค. 67 พร้อมจัดทีมปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงเพื่อเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ ให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้น้อยที่สุด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวไทยตอนล่างกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ โดยพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์ ระหว่างวันที่ 5 – 11 ธันวาคม 2567 แยกเป็น
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม
จังหวัดชุมพร 8 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอเมืองชุมพร
- อำเภอท่าแซะ
- อำเภอปะทิว
- อำเภอละแม
- อำเภอสวี
- อำเภอทุ่งตะโก
- อำเภอหลังสวน
- อำเภอพะโต๊ะ
จังหวัดสุราษฎร์ธานี 12 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
- อำเภอกาญจนดิษฐ์
- อำเภอบ้านนาสาร
- อำเภอเวียงสระ
- อำเภอบ้านนาเดิม
- อำเภอพุนพิน
- อำเภอเคียนซา
- อำเภอพระแสง
- อำเภอชัยบุรี
- อำเภอดอนสัก
- อำเภอเกาะพะงัน
- อำเภอเกาะสมุย
จังหวัดนครศรีธรรมราช 18 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
- อำเภอปากพนัง
- อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
- อำเภอพระพรหม
- อำเภอร่อนพิบูลย์
- อำเภอจุฬาภรณ์
- อำเภอขนอม
- อำเภอทุ่งสง
- อำเภอสิชล
- อำเภอนบพิตำ
- อำเภอพิปูน
- อำเภอฉวาง
- อำเภอท่าศาลา
- อำเภอพรหมคีรี
- อำเภอลานสกา
- อำเภอเชียรใหญ่
- อำเภอชะอวด
- อำเภอหัวไทร
จังหวัดพัทลุง 6 อำเภอ ได้แก่
- เภอเมืองพัทลุง
- อำเภอศรีบรรพต
- อำเภอศรีนครินทร์
- อำเภอควนขนุน
- อำเภอกงหรา
- อำเภอป่าบอน
จังหวัดสงขลา 14 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอเมืองสงขลา
- อำเภอกระแสสิน
- อำเภอสทิงพระ
- อำเภอควนเนียง
- อำเภอบางกล่ำ
- อำเภอสิงหนคร
- อำเภอหาดใหญ่
- อำเภอนาหม่อม
- อำเภอรัตภูมิ
- อำเภอระโนด
- อำเภอจะนะ
- อำเภอเทพา
- อำเภอนาทวี
- อำเภอสะบ้าย้อย
จังหวัดปัตตานี 12 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอเมืองปัตตานี
- อำเภอโคกโพธิ์
- อำเภอแม่ลาน
- อำเภอกะพ้อ
- อำเภอทุ่งยางแดง
- อำเภอไม้แก่น
- อำเภอยะรัง
- อำเภอสายบุรี
- อำเภอยะหริ่ง
- อำเภอปะนาเระ
- อำเภอมายอ
- อำเภอหนองจิก
จังหวัดยะลา 8 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอเมืองยะลา
- อำเภอกรงปินัง
- อำเภอเบตง
- อำเภอธารโต
- อำเภอบันนังสตา
- อำเภอกาบัง
- อำเภอยะหา
- อำเภอรามัน
จังหวัดนราธิวาส 13 อำเภอ ได้แก่
- เภอเมืองนราธิวาส
- อำเภอศรีสาคร
- อำเภอเจาะไอร้อง
- อำเภอแว้ง
- อำเภอบาเจาะ
- อำเภอยี่งอ
- อำเภอระแงะ
- อำเภอรือเสาะ
- อำเภอจะแนะ
- อำเภอสุคิริน
- อำเภอสุไหงโก-ลก
- อำเภอสุไหงปาดี
- อำเภอตากใบ
จังหวัดพังงา 2 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอตะกั่วป่า
- อำเภอกะปง
จังหวัดภูเก็ต ทุกอำเภอ
จังหวัดตรัง 6 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอเมืองตรัง
- อำเภอวังวิเศษ
- อำเภอย่านตาขาว
- อำเภอห้วยยอด
- อำเภอนาโยง
- อำเภอปะเหลียน
จังหวัดสตูล 5 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอเมืองสตูล
- อำเภอทุ่งหว้า
- อำเภอมะนัง
- อำเภอควนกาหลง
- อำเภอควนโดน
พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก
ที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณจังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสงขลา จังหวัดยะลา และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกักที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ปัจจุบันมีระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระดับที่มีความเสี่ยง อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อน ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนน้อยที่สุด และให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเขื่อนด้วย
พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขัง
ในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ คลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองท่าดี คลองชะอวด แม่น้ำตรัง คลองลำ คลองท่าแนะ คลองอู่ตะเภา แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 12 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต ให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน และพื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ ให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้น้อยที่สุดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัยให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย และพร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้น ตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในระยะนี้ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ประกาศการแจ้งเตือนภัย สถานการณ์น้ำในพื้นที่ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถ ติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน "THA DISASTER ALERT" ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ ทั้งระบบ IOS และ Android และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ1784" โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป