อัปเดต จับ 'เจ้าแม่เว็บพนัน' พร้อมแก๊ง 8 ลุยผู้รับผลประโยชน์ 26 ราย

กรณีตำรวจไซเบอร์เบื้องหลังจับ 'เจ้าแม่เว็บพนัน' ไม่เข็ด ยังกล้าถอนเงินพนัน ขณะรายงานตัวศาล ลุยผู้รับผลประโยชน์ 26 ราย

วันนี้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ คุมตัว นางสาว ธ หรือ มินนี่ พร้อมพวกรวม 10 ราย ที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา กรณีเปิดเว็บพนัน 7 เว็บไซต์ โดยพบว่ามีผู้ต้องหาถึง 7 ราย ที่เป็นระดับผู้บริหารได้กระทำผิดซ้ำ

ด้านพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 ได้เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า เบื้องต้นในท้ายคำร้อง ทางพนักงานสอบสวนทำการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นการทำผิดซ้ำไม่หลาบจำ และจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดส่วนใหญ่ให้การปฏิเสธ และให้การไม่เป็นประโยชน์

โดยเฉพาะ น.ส.ธ ขอให้การเป็นเอกสาร ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในครั้งนี้ตัว น.ส.ธ ได้มีการติดต่อหาผู้ใหญ่เหมือนครั้งที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้หรือไม่ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบและยังไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ ด้านมินนี่กล่าวกับผู้สื่อข่าว “ปฏิเสธไม่ได้ติดต่อผู้ใหญ่ให้ช่วย”

ส่วนการแถลงข่าววานนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเจ้าแม่เว็บพนันใจเด็ด โดนจับแล้วไม่เข็ดแถมยังกล้าถอนเงินจากเว็บฯ ขณะไปรายงานตัวที่ศาล

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เครือข่าย “Betflik” ประกอบด้วยเว็บไซต์จำนวน 7 เว็บไซต์ คือ

• www.betflik101.com,
• www.betflix488.com,
• www.betflixspin.com,
• www.sabuy.bet,
• www.spinixgold.com,
• www.spinixup.net
• www.spinplay.com 

ได้ทำการลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เปิดให้บุคคลทั่วไปสมัครเป็นสมาชิกและเข้าเล่นพนันออนไลน์จนเกิดการเสียทรัพย์สินกันจริง จึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์เครือข่ายดังกล่าวเรื่อยมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า กลุ่มบุคคลที่เป็นผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์ดังกล่าว เป็นกลุ่มคนเดียวกันกับกลุ่มผู้ต้องหาที่เคยถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์มาก่อน

ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี และจากการตรวจสอบยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหายังได้มีการถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์ในขณะที่กำลังเดินทางไปรายงานตัวที่ศาลอีกด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานนำเสนอต่อศาลอาญา จนศาลอนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ดังกล่าว จำนวน 33 ราย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 กลุ่มบริหารเว็บพนัน

จำนวน 7 ราย ได้แก่

1.นางสาว ธ เป็น เจ้าของเว็บไซต์ และผู้จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์

2.นางสาว อ เป็น เลขา และผู้รวบรวมเงินจากเว็บการพนันออนไลน์มามอบให้ น.ส.ธันยนันท์ฯ

3.นาย ย เป็น ผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์

4.นาย ช เป็น ผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์

5.นาย ชา เป็น ผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์

6.นาย ส เป็น ผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์

7.นาย ณ เป็น ผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์

กลุ่มที่ 2 กลุ่มเจ้าของบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์ จำนวน 26 ราย

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับ ในกลุ่มบริหาร ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ดังกล่าว พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และ จ.เลย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 จึงได้สนธิกำลังกับ บก.สอท.3 ในการสืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาล ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายค้นตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอ

กระทั่งวันที่ 4 มี.ค.68 บก.สอท.1 และ บก.สอท.3 ได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกันจำนวน 13 จุด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 9 ราย ดังนี้

1.นางสาว ธ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1492/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ย่านถนนกาญจนาภิเษก แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

2.นางสาว อ (กลุ่มบริหาร) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1493/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ที่ 7 ต.นาอาน อ.เมืองเลย จ.เลย

3.นาย ย (กลุ่มบริหาร) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1517/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ที่ 7 ต.นาอาน อ.เมืองเลย จ.เลย

4.นาย ช (กลุ่มบริหาร) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1524/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ที่ 7 ต.นาอาน อ.เมืองเลย จ.เลย

5.นาย ชา (กลุ่มบริหาร) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1518/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ที่ 13 ต.เมือง อ.เมืองเลย จ.เลย

6.นาย ณ (กลุ่มบริหาร) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1519/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมืองเลย จ.เลย

7.นาย ส (กลุ่มบริหาร) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1506/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ที่ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

8.นาย พ (กลุ่มเจ้าของบัญชีรับผลประโยชน์) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1508/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ย่านถนนพระรามที่ 2 ซอย 23 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร

9.น.ส. ธิดฯ (กลุ่มเจ้าของบัญชีรับผลประโยชน์) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1514/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ภายในซอยบางแค 9 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็น โทรศัพท์มือถือ จำนวน 30 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 เครื่อง, บัตรเครดิตและบัตรเดบิต จำนวน 32 ใบ, สมุดบัญชีธนาคาร 25 เล่ม และเอกสารและหลักฐานอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จำนวนหลายรายการ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดในความผิดฐาน

1. ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบาย ล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
2. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน
3. ร่วมกันฟอกเงิน
   ซึ่งฐานความผิดของผู้ต้องหาแต่ละรายจะแตกต่างกันไปตามพฤติการณ์ และพยานหลักฐานในคดี

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท.

และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

อ้างอิง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์)