ฮอต! หลานอดีตรัฐมนตรี พบ ตร. แล้ว ลั่นมีหลักฐานชัด โวยดาราสาวแบล็คเมล์

ข่าวดัง ดาราสาวกับหลานรัฐมนตรี จากกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พาดาราสาวผู้เสียหายที่ถูกหลานชายอดีตรัฐมนตรี​ ข่มขืนกระทำชำเรา ภายในรีสอร์ตย่านนาคนิวาส เข้าติดตามคดีกับตำรวจ สน.โชคชัย กทม. เมื่อวันที่ 24 ส.ค.​ ที่ผ่านมา จนกลายเป็นประเด็นสังคมที่หลายคนเฝ้าติดตาม

ล่าสุด นายอภิดิศร์ อินทุลักษณ์ หรือ เอ็ม ผู้ถูกกล่าวหาในคดีข่มขืนกระทำชำเราดารานักแสดงสาว อายุ 22 ปี ที่วิลล่าแห่งหนึ่งในซอยนาคนิวาศ 2 เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ตามหมายเรียก

โดยก่อนเข้าพบ นายอภิดิศร์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมีหลักฐานชัดเจนว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการแบล็กเมล์ ข่าวที่ออกไปทำวงศ์ตระกูลตนเสียหายมาก ตาของตนเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจริงเมื่อ 40-50 ปีแล้ว และเสียไปถึง 10 ปีแล้ว การนำตาของตนมาเกี่ยวข้องนั้นรู้สึกเสียใจมาก เพราะคดีมีผู้เกี่ยวข้องเพียงตนคนเดียว ไม่อยากให้นำครอบครัวของตนมาเกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ตนอยากบอกว่าตนบริสุทธิ์ใจ ส่วนที่ผู้กล่าวหาบอกว่าตนมีเส้นสายกับตำรวจ ตนไม่รู้จักใครแต่อย่างใด ตนเพิ่งกลับจากไปเที่ยวที่หัวหิน รู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หลานอีตรัฐมนตรีคนดังกล่าว กล่าวอีกว่า การที่ผู้กล่าวหาไปออกรายการกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ต้องขอขอบคุณทนายษิทราที่ให้ความร่วมมือ เข้าใจว่าเป็นทนายของประชาชน หากตนเป็นทนายและได้ยินจากฝ่ายเดียวก็คงรับไม่ได้หากมีผู้ชายไปข่มขืนผู้หญิง เพราะต้องเป็นสุภาพบุรุษ หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนตนจะชี้แจงอีกครั้ง เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อรูปคดี ซึ่งนายษิทราน่าจะอยู่ฝ่ายที่ผิด เพราะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร ซึ่งหลักฐานที่นำมานั้นมีความรัดกุม สามารถชี้แจงได้ว่าไม่ผิดตามที่ถูกกล่าวหา

ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุ ตนได้ไปกับผู้ถูกกล่าวหาจริง เพราะผู้กล่าวหาได้ติดต่อมาหาตนว่าทะเลาะกับพี่สาว และอยู่ที่สยามสแควร์คนเดียว กระทั่งช่วงกลางคืนได้บอกตนมาว่าไม่กลับห้อง ให้แนะนำโรงแรมให้ ตนจึงแนะนำโรงแรมแถวสุขุมวิทไปให้ แต่อีกฝ่ายบอกว่ามีราคาแพงเกินไป ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นแชท อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ไปส่งเพียงอย่างเดียว แต่ไปที่โรงแรมโดยนำเหล้าโซจูไปด้วย และไม่ได้เป็นการไปพูดคุยเรื่องงาน แต่เรื่องที่เกิดในห้องนั้นตนมีหลักฐานทั้งหมดว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง

ส่วนตัวรู้จักกับผู้ถูกกล่าวหา เพราะเคยติดต่อไปให้รีวิวสินค้า โดยรู้จักกันก่อนหน้าวันเกิดเหตุไม่ถึงเดือน ไม่เคยมีการคบหากันแต่อย่างใด โดยตนรู้สึกเสียใจกับคำพูดของนายษิทรา แต่เข้าใจว่าต้องการปกป้องผู้หญิง เพราะเชื่ออว่าถูกรังแก

ส่วนเรื่องเล่นการเมืองนั้น ผู้ที่โทรไปหาผู้กล่าวหาเป็นผู้ใหญ่ที่ตนนับถือ ซึ่งโทรไปโดยที่ยังไม่ได้พูดคุยกับตน โดยคลิปเสียงที่ปรากฎออกมาเป็นคลิปที่ถูกตัดมา สิ่งที่กังวลคือชื่อของตนออกไปในสื่อสังคมออนไลน์เยอะ และบางคนอาจไม่เข้าใจ ไม่ได้ฟังจากตน ขอให้ผู้สื่อข่าวเป็นกระบอกเสียงให้ เพราะตนเป็นชายธรรมดาคนหนึ่งที่ถูกรังแก