ตั้งรางวัลนำจับ "เป้ Pminer" 5 หมื่นบาท โกงลงทุนคริปโต
หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โพสต์ตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่นบาท ชี้เบาะแสจับตัว "เป้ Pminer " หลังมีผู้เสียหายจากการลงทุนคริปโต มูลค่านับพันล้านบาท คาดหลบหนีอยู่ประเทศเพื่อบ้าน
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 65 หลังจากที่มีผู้เสียหายได้รวบรวมหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 DSI ว่าถูก นายกิติกร อินต๊ะ หรือ “เป้ Pminer” ซีอีโอ บริษัท P miner Cryptocurrency ชักชวนลงทุนคริปโต ซึ่งคาดว่ามีความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท ทำให้เจ้ากน้าที่ตำรวจ สอท. และ ปปง. สนธิกำลังเข้ายึดทรัพย์ เจ้าของ P miner Cryptocurrency ได้ข้องกลางเป็นรถหรูจำนวน 5 คันคือ เเลมโบกินี BMW เฟอร์รารี เบนท์ลีย์ เเลมโบกินี นอกจากนี้ยังพบนาฬิกาหรู โฉนดที่ดิน และได้อายัดบัญชีทั้งหมดเอาไว้แล้ว
ล่าสุด หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้โพสต์ข้อความ ประกาศตั้งค่าหัว ให้รางวัลนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแสนาย กิติกร อินต๊ะ จนนำไปสู่การจับกุมได้สำเร็จ โดยมีข้อความว่า "50,000 บาท สำหรับเบาะแสที่สามารถนำไปสู่การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, DSI และ ปปง. นายกิติกร อินต๊ะ เจ้าของแชร์ลูกโซ่ P miner ที่จังหวัดเชียงใหม่ เบาะแสล่าสุด อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว”
ด้านผู้เสียหายที่เข้าร้องเรียนต่อ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 DSI ในช่วงแรกๆ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ เรียกไป สอบเพิ่มเติม ซึ่งก็ยังคงรอเจ้าหน้าที่ ติดต่อมา และก็คอยติดตามข่าวสารทุกๆ วัน ทำให้ได้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่มีความคืบหน้าไปมาก รูปคดีชัดเจนขึ้น รวมถึงยังมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนทุกวัน ล่าสุดเห็นการประกาศ ให้รางวัลนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแส จึงมีความหวังว่า จะจับกุมผู้กระทำความผิดได้เร็วๆนี้ และ นำเงินกลับมาคืนผู้เสียหาย ที่ยังรอคอยอย่างมีความหวัง
ข้อมูลจาก ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 DSI เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียหายในจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงเข้าแจ้งความที่ดีเอสไอ ภาค 5 และผ่านระบบออนไลน์แล้วกว่า 300 - 400 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 300 - 400 ล้านบาท แต่คาดว่าจำนวนผู้เสียหายจะมีมากกว่า 1,500 ราย และมูลค่าความเสียหาย น่าจะสูงเกิน 2,000 ล้านบาท
ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายซึ่งมีจำนวนมากขึ้นต่อเนื่อง โดยผู้เสียหายสามารถร้องเรียน เรื่อง การถูกชักชวนลงทุนคริปโต ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม ที่ศาลากลาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะมีหน่วยงานที่รับเรื่องและให้คำปรึกษา เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว