โรงกลั่นและการค้าน้ำมันบางจากฯ สู่แถวหน้าของธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
จากก้าวเล็กๆ ที่มั่นคงในประเทศไทย สู่...ผู้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันอย่างครบวงจร ระดับแนวหน้าของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เราเดินมาถึงแถวหน้าได้ เพราะเรายอมรับว่า โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง ของเรามีข้อจำกัดทั้งด้วยกำลังการกลั่นเล็กที่สุดและที่ตั้งที่ไม่ติดกับทะเล เราจึงประเมินและหายุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจ เราให้พนักงานมีส่วนร่วมคิด ริเริ่ม และสร้างจิตสำนึกความเป็นเจ้าของ มาวันนี้แม้ว่าเรายังคงมีขนาดเล็กที่สุดแต่เป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนการกลั่นต่อบาร์เรลต่ำที่สุด
ดำเนินธุรกิจได้ครอบคลุมทั้ง Supply Chain
ธรรมรัตน์ เล่าว่า ในธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ถ้าจะประสบความสำเร็จ ต้องมีแขนขาที่มีสมรรถนะ เพื่อพาโรงกลั่นซึ่งเปรียบเสมือนร่างกายไปทุกที่ จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งบริษัทต่างๆ เริ่มจาก บริษัท กรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ (BFPL) เพื่อบริหารการขนส่งเชื้อเพลิงทางรถและเรือทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ อีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่จะทำให้การขนส่งเชื้อเพลิงมีความคุ้มค่าในเชิงต้นทุนได้มากที่สุด ขณะเดียวกันการจัดหาน้ำมันดิบที่เหมาะสมกับกลั่นเป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อปี 2559 บางจากฯ จึงได้จัดตั้งบริษัท BCP Trading Pte. Ltd (BCPT) เพื่อดำเนินธุรกิจการค้าน้ำมัน (น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป) ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันทำการค้าระหว่างประเทศในกว่า 20 ประเทศ กับคู่สัญญากว่า 100 รายทั่วโลก พร้อมก้าวสู่การเป็น Sustainable Suppliers ด้วยการรับรองของ ISCC (International Sustainability and Carbon Certification)
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทย่อยที่ตั้งใหม่ บริษัท รีไฟเนอร์รี่ ออฟติไมซ์เซชั่น แอนด์ ซินเนอร์ยี่ เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (ROSE) เพื่อวางแผนและให้บริการบริหารงานธุรกิจ โรงกลั่นน้ำมัน ทั้งกระบวนการจัดหา แผนการผลิต ขนส่ง บริหารความเสี่ยงด้านราคา บริหารการขาย ซึ่งวันนี้เรามีโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา เข้ามาอยู่ในการร่วมบริหารจัดการภายใต้กลุ่มบริษัทบางจาก ดังนั้น ROSE จะช่วยยกระดับการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมันทั้ง 2 แห่งของ บางจากฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพด้วยประสิทธิภาพ
ธรรมรัตน์ กล่าวว่าโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น UO, Solvent, Wax และยกระดับเป็น High Value Specialty Products Refinery เป็นโรงกลั่นเดียวในโลกที่ได้รับรางวัลสุดยอดองค์กรแห่งความเป็นเลิศระดับโลก Global Performance Excellence Award 2023 - World Class และสามารถผลิตผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ (5 ผลิตภัณฑ์) มีค่าการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่าค่ามาตรฐานของประเทศและต่ำกว่า Benchmark ของโรงกลั่นทั้งในและนอกประเทศ ความสำเร็จเหล่านี้เกิดจากการดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการล่าสุด FAST+ (Focus Analysis Success Transform+) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พร้อมขับเคลื่อนอากาศยานด้วยพลังงานสะอาด
บางจากฯ ยังได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานด้วยการบุกเบิกธุรกิจผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF (Sustainable Aviation Fuel) ทางออกสำคัญในการ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากอุตสาหกรรมการบิน ผ่านบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) โดยจะเป็นผู้ผลิต SAF จากน้ำมันใช้แล้วจากการทำอาหารเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย และพร้อมที่จะขยายศักยภาพของธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ภายใต้บริบทใหม่ๆ
"ความสำเร็จต่างๆ ในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่ไม่เคยหยุดของเรา ที่พร้อมเสมอที่จะปรับตัวให้กับสถานการณ์ และเดินหน้าหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจ ด้วยกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่สำคัญของ บางจากฯ คือการเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกับการรักษาสมดุลด้านต่างๆ สร้างความยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วน" ธรรมรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย