ซีพี-เมจิ ฉลองวันดื่มนมโลก ชวนคนไทยเสริมโภชนาการ ช่วยเพิ่มคุณค่าทุกชีวิต
ซีพี-เมจิ ฉลองวันดื่มนมโลก ชวนคนไทยหันมาดื่มนมมากขึ้น เพื่อผู้บริโภคจะได้รับสารอาหารและโภชนาการที่ดี อีกทั้งยังช่วยสร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศอีกด้วย
31 พฤษภาคม 2567 บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์ชั้นนำของประเทศไทย และอยู่คู่คนไทยมากว่า 35 ปี ฉลอง วันดื่มนมโลก (World Milk Day) โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (The Food and Agriculture Organization หรือ FAO) กำหนดให้ตรงกับวันที่ 1 มิถุนายนของทุกปี พร้อมเชิญชวนคนไทยหันมาดื่มนมมากขึ้น และกระตุ้นให้เห็นถึงความสำคัญของนมซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อร่างกายตลอดทุกช่วงชีวิต โดยเฉพาะเด็กไทย ควรดื่มนมเพื่อให้มีรูปร่างสูงสมวัยและมีสุขภาพแข็งแรง
ข้อมูลจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. ในปี 2566 ระบุว่า อัตราการดื่มนมของประชากรไทยยังคงน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 6 เท่า ขณะที่ ซีพี-เมจิ มุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้คนไทยเห็นคุณค่าของการดื่มนมตามเป้าหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สนับสนุนให้คนไทยดื่มนมเพิ่มขึ้นมากกว่า 25 ลิตรต่อคนต่อปี ภายในปี 2570 โดยเฉพาะนมโคแท้ 100% เพราะนอกจากผู้บริโภคจะได้รับสารอาหารและโภชนาการที่ดีจากนมแล้ว การบริโภคนมที่มากขึ้นยังสร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศอีกด้วย
นางสาวสลิลรัตน์ พงษ์พานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า ซีพี-เมจิ ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมนมพาสเจอร์ไรส์รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมคนไทยให้ดื่มน้ำนมโคแท้ 100% ที่อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์มากมายจากธรรมชาติ เรามั่นใจว่าการบริโภคนมทั้งในประเทศไทย และทั่วภูมิภาคกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยตลาดนมสดพาสเจอร์ไรส์และเครื่องดื่มนมในประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดที่มีสีสัน สังเกตได้จากผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายมีความหลากหลาย ซีพี-เมจิก็เป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมการคิดค้นผลิตภัณฑ์นมรูปแบบใหม่ๆ ทั้งเรื่องของการเพิ่มคุณค่าสารอาหาร รสชาติ และคุณสมบัติจำเพาะ เพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจง และซับซ้อนมากขึ้นของผู้บริโภค
“นอกจากซีพี-เมจิ จะมีความตั้งใจในการผลิตนมสดพาสเจอร์ไรซ์คุณภาพเยี่ยม เพื่อส่งมอบให้กับผู้บริโภคพร้อมกับการสร้างการเติบโตให้กับตลาดแล้ว บริษัทฯ ยังตระหนักถึงการดูแลและรับผิดชอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่เกษตรกรต้นน้ำ โดยได้จัดตั้งทีมงานบริหารจัดการน้ำนมดิบ เพื่อทำงานร่วมกับศูนย์รับน้ำนมดิบ กลุ่มเกษตรกร และประสานกับภาครัฐ อาทิ กรมปศุสัตว์ ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการดูแลโคนมและการจัดการฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร เพื่อเป้าหมายความยั่งยืนระยะยาวในการให้วัวแต่ละตัวสามารถผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพ และมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของตลาด เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรุ่นใหม่เพื่อสานต่อการทำฟาร์มโคนมให้เติบโต สร้างอาชีพที่มั่นคง โดยปัจจุบัน ซีพี-เมจิ รับซื้อน้ำนมดิบในปริมาณ 580-600 ตันต่อวัน จากเครือข่ายเกษตรกรฟาร์มโคนม 6,000 แห่งทั่วประเทศ” นางสาวสลิลรัตน์ กล่าวเสริม
นอกจากนั้น ยังมุ่งพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดสระบุรี ทั้งมิติทางสังคม ผ่านโครงการด้านการศึกษาจนถึงโภชนาการในโรงเรียนและชุมชนรอบข้าง ส่วนมิติด้านสิ่งแวดล้อม มีการตั้งเป้าหมายในการลดผลกระทบจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ตามเป้าหมายของประเทศไทยในปี 2023 คู่ขนานไปกับการดูแลรักษาผืนป่าต้นน้ำ ด้วยการปูพรมสร้างพื้นที่สีเขียว ปลูกป่าให้ได้ 200,000 ต้น ในจังหวัดสระบุรีและจังหวัดใกล้เคียง
“สำหรับ ซีพี-เมจิ เบื้องหลังนมทุกขวด คือการสร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องดื่มที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับเจตนารมณ์แห่งการ เพิ่มคุณค่าชีวิต แก่ผู้มีส่วนในห่วงโซ่คุณค่า (Value chain)” นางสาวสลิลรัตน์ สรุป