ชมภาพ ในหลวง พระราชินี ทรงเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง “ชนกาธิเบศรดำริ”
ในหลวง พระราชินี ทรงเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง “ชนกาธิเบศรดำริ” จ.เชียงใหม่
วันนี้ (12ก.พ.66) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง “ชนกาธิเบศรดำริ”ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ คณะข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
โอกาสนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เจ้าหน้าที่โครงการหลวงเลอตอ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ชาวบ้านและเกษตรกรชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอญอซึ่งได้รับประโยชน์จากโครงการ ฯ ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ผ่านสื่ออเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ ทรงโบกพระหัตถ์แย้มพระสรวลทักทายชาวบ้านและเกษตรกรชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอญอซึ่งได้รับประโยชน์จากโครงการ สร้างความปลื้มปิติอย่างหาที่สุดมิได้
อาคารศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง “ชนกาธิเบศรดำริ” อันเป็นศูนย์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งขึ้น และพระราชทานนามศูนย์วิจัยฯ ว่า “ชนกาธิเบศรดำริ”
มีความหมายว่า เป็นศูนย์รวมการวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง สืบสาน รักษา และต่อยอด ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่สร้างประโยชน์ทั้งแก่ประชาชนบนพื้นที่สูง ประชาชนในพื้นที่โดยรอบ และประชาชนโดยรวมของประเทศ ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ 21.9ไร่ ประกอบด้วย อาคารทำการ 7 หลัง ได้แก่ อาคารอำนวยการ อาคารปฏิบัติการ1 อาคารปฏิบัติการ 2 อาคารอารักขาพืช อาคารเมล็ดพันธุ์และแปรรูปสมุนไพร อาคารเทคโนโลยีชีวภาพทางด้านพืช และอาคารดาต้า เซ็นเตอร์ (DATA CENTER)
ศูนย์วิจัยฯ แห่งนี้ เริ่มก่อสร้างเมื่อต้นปี 2563 แล้วเสร็จเมื่อเดือนสิงหาคม 2564 การดำเนินงานภายใต้ศูนย์วิจัยฯ ชนกาธิเบศรดำริ มีความครบถ้วนทั้งด้านการศึกษา ค้นคว้า การวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืช อย่างครบวงจร การวิจัยและแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า การบริหารจัดการหลังการเก็บเกี่ยว
รวมทั้งยังมุ่งสู่การเป็นสถานที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 53 ปี พร้อมทั้งเผยแพร่พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการพัฒนาพื้นที่สูง เพื่อประโยชน์ต่อทั้งชาวเขา ชาวเรา และชาวโลก ให้เป็นที่ประจักษ์สืบไป