ในหลวง เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พุทธศักราช 2566
ในหลวง พระราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พุทธศักราช 2566 ณ มณฑลท้องสนามหลวง
วันนี้ (17 พ.ค.66) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง
เวลา 08.34 น. รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่พลับพลาพิธีมณฑลท้องสนามหลวง เสด็จขึ้นพลับพลาพิธีมณฑลท้องสนามหลวง ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับพระราชอาสน์
จากนั้น นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนา ยาตราขบวน พร้อมด้วยเทพีแรกนาขวัญ ได้แก่ นางสาวดวงพร งามประดิษฐ์ นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ กรมวิชาการเกษตร นางสาวชลธิชา ทองอ่อน นายสัตวแพทย์ชำนาญการ กรมปศุสัตว์ นางสาวปนัดดา เปี่ยมมอญ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวภัทรปภา มินรินทร์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร ออกจากโรงพิธีพราหมณ์
เมื่อถึงหน้าพระที่นั่ง พระยาแรกนา
เข้าเฝ้าฯ ถวายบังคม แล้วออกไปประกอบพิธีแรกนา เสร็จแล้ว
กลับโรงพิธีพราหมณ์ ต่อมาพราหมณ์นำสิ่งของไปเลี้ยงพระโคที่หน้าพระที่นั่ง เจ้าหน้าที่นำพระโคไปกินเลี้ยงของเสี่ยงทาย เมื่อพระโคกินสิ่งใดแล้ว โหรหลวงจะได้ถวายคำพยากรณ์ ถึงความสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารของประเทศ โดยพระยาแรกนาได้ตั้งสัตยาธิษฐาน เสี่ยงทายหยิบผ้านุ่งแต่งกาย หยิบได้ผ้า 5 คืบพยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
ในการนี้ นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่ถวายรายงานการพยากรณ์เสี่ยงทายผ้านุ่งของพระยาแรกนา และพระโคกินเลี้ยง
นอกจากนี้ พราหมณ์จะเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง ที่ตั้งเลี้ยงพระโค เมื่อพระโคกินของสิ่งใด โหรหลวงจะได้ถวายคำพยากรณ์ คือ พระโคกินหญ้าพยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี และพระโคกินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมสะดวกขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง
ต่อมา รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กราบบังคมทูลเบิกชาวนาผู้ชนะการประกวดผลผลิตและเกษตรกรดีเด่น เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรางวัล ยาตราขบวนพระยาแรกนา ขณะผ่านหน้าพระที่นั่ง พระยาแรกนาจะได้เข้าเฝ้าฯ ถวายบังคม แล้วขี้นรถยนต์หลวงไปรอเฝ้าฯ ที่แปลงนาสาธิต สวนจิตรลดา ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ
เสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง
เสด็จพระราชดำเนินไปยังสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่บริเวณแปลงนาสาธิต
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ประทับพระราชอาสน์ พระยาแรกนา เข้าเฝ้าฯ ถวายบังคม แล้วออกไปประกอบพิธีแรกนา พร้อมด้วยเทพีคู่หาบทอง- เงิน เสร็จแล้ว พระยาแรกนา เข้าเฝ้าฯ ถวายบังคม เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
สำหรับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีการเพื่อความเป็นสิริมงคลและบำรุงขวัญเกษตรกร กำหนดจัดขึ้นในราวเดือนหกของทุกปี หรือเดือนพฤษภาคมที่มีฤกษ์ยามที่เหมาะสมต้องตามประเพณี ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะสมที่จะเริ่มต้นการทำนาอันเป็นอาชีพหลักของประชาชนคนไทย
ในปีนี้ กรมการข้าวทำหน้าที่ในการจัดเตรียมพันธุ์ข้าวพระราชทานและพันธุ์พืช ซึ่งนำมาใช้ในงานพระราชพิธีฯ โดยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำพันธุ์ข้าวทรงปลูกในฤดูนาปี 2565 โครงการนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดามาใช้ในงานพระราชพิธีฯ ประจำปี 2566 ประกอบด้วย ข้าวนาสวน จำนวน 6 พันธุ์ (ขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 539 กิโลกรัมปทุมธานี 1 จำนวน 325 กิโลกรัม กข 6 จำนวน 73 กิโลกรัม กข 87 จำนวน 400 กิโลกรัม กข 85 จำนวน 521 กิโลกรัม และ กข 43 จำนวน 386 กิโลกรัม เมล็ดพันธุ์ข้าวเปลือกที่นำเข้าในพระราชพิธีมีน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 2,244 กิโลกรัม และจัดเป็น “พันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทาน” บรรจุในซองพลาสติกแจกจ่ายให้บรรดาพสกนิกร ประชาชนผู้สนใจ และชาวนาทั่วประเทศรับไปเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคลในการประกอบอาชีพการเกษตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประชาชนที่อยู่โดยรอบมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ต่างพากันเข้ามาเก็บเมล็ดพันธ์ุข้าว รวมทั้งเก็บต้นไม้ สายสิญจน์ในมณฑลพิธี เก็บไปเสริมสิริมงคลอีกด้วย