ในหลวง พระราชทานถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัย จ. พังงา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพังงา ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

วันนี้ (10 ก.ค.66) เวลา 11.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี  ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 379 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ซึ่งตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพังงา  ณ อาคารเอนกประสงค์วัดปัจจันตคาม อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา 

 

ในโอกาสนี้ องคมนตรีเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัยและเจ้าหน้าที่ได้รับทราบกับลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งคาโงก อำเภอเมืองพังงา จำนวน 5 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา 

ในการนี้ องคมนตรีเชิญพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการป้องกันภัยและเมื่อเกิดภัยพิบัติ อาทิ การวางแผน การซักซ้อมแผน และการปฏิบัติของแต่ละหน่วยงาน ในการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ แก่ราษฎรไปกล่าวในที่ประชุม เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องน้อมนำไปปรับให้เข้ากับแผนในการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละหน่วย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 

 

รวมทั้ง รับฟังรายงานการเกิดเหตุอุทกภัย การแก้ไข รวมทั้งการดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ  หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม 

           
จังหวัดพังงา เกิดเหตุอุทกภัยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2566 โดยเกิดฝนตกและตกหนักในพื้นที่จังหวัดพังงา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ส่งผลทำให้บ้านเรือนราษฎร วัด ถนน พื้นที่ทางการเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ ได้รับความเสียหาย  ในพื้นที่  5 อำเภอ 20 ตำบล 42 หมู่บ้าน และประชาชนได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 379 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว โดยจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ เป็นการเร่งด่วนด้วยแล้ว