พระราชินี เสด็จฯ ทรงเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2567
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
วันนี้ (1 สิงหาคม 2567) เวลา 16.19 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์แสดงสินค้าและการประฃุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อทรงเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2567 ซึ่งสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย จัดขึ้นภายในแนวคิด "น้อมเกล้าฯ ถวายความภักดี ปวงสตรีสืบสานการพัฒนา" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2567 และเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการสร้างเสริมทักษะและศักยภาพบทบาทของสตรีให้มีความเข้มแข็งเท่าเทียมและเสมอภาค เป็นพลังในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ และเพื่อรวมพลังกลุ่มองค์กรสตรีจากทั่วประเทศ
โอกาสนี้ พระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ 92 คน, พระราชทานเกียรติบัตรแก่สตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2567 จำนวน 144 คน ต่อจากนั้น ทรงจุดเทียนเปิดงาน "วันสตรีไทย ประจำปี 2567" แล้วประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณของสตรีไทย
จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระราชดำรัส ถึงสตรีไทยซึ่งมีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญต่อสังคมเป็นอย่างมาก
"ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปีพุทธศักราช 2567 ขอแสดงความชื่นชมกับสตรีไทยดีเด่นทุกท่าน ที่ได้ประกอบคุณงามความดีต่อครอบครัว ชุมชน และสังคม อย่างต่อเนื่องตลอดมา จนนำมาสู่รางวัลเกียรติยศในวันนี้ สตรีไทยนั้น มีบทบาทหน้าที่ที่หลากหลาย นับตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน
บทบาทหน้าที่อย่างหนึ่งซึ่งสำคัญมาก คือบทบาทหน้าที่ในครอบครัว ทั้งในฐานะที่เป็นหลักในการผดุงครอบครัวให้อบอุ่นเข้มแข็ง และในฐานะที่เป็นผู้ดูแลสมาชิกในครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าสตรีไทยจะทำงานในสาขาอาชีพใดก็ตาม แต่ความสำคัญที่มีต่อครอบครัว ตามบทบาทหน้าที่ดังกล่าวนั้น ก็ยังคงอยู่ และสตรีไทยจำนวนมาก ก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อครอบครัวได้อย่างดียิ่ง แม้ว่าจะต้องทำงานสร้างตัวสร้างฐานะไปด้วยพร้อมกัน จึงเป็นที่น่าชื่นชม ที่ท่านทั้งหลายได้จัดการประชุมครั้งนี้ขึ้น ในหัวข้อ "น้อมเกล้าฯ ถวายความภักดี ปวงสตรีสืบสานการพัฒนา" เพราะหากสตรีไทยสามารถจรรโลงรักษาบทบาทหน้าที่ในครอบครัว ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของบุคคลและสังคมได้แล้ว ชาติบ้านเมืองเราก็ย่อมมีความผาสุกมั่นคง และพัฒนาก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นได้อย่างแน่นอน
ได้เวลาอันสมควรแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2567 ณ บัดนี้ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และพระบารมีแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ได้โปรดคุ้มครองรักษาทุกท่าน ให้ประสบความสุขสวัสดิ์มีทั่วหน้ากัน"
ต่อจากนั้น พระราชทานเข็มสตรีไทยดีเด่น แก่เยาวชนสตรีไทยดีเด่นที่มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว จำนวน 2 คน
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการชองสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และผลิตภัณฑ์ตามโครงการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปี 2567 จำนวน 11โครงการ ซึ่งเป็นโครงการฯ ช่วยเหลือสนับสนุนให้กลุ่มสตรีทั้งในชนบทและชายขอบ ได้มีอาชีพและมีรายได้เลี้ยงครอบครัว อย่างยั่งยืน ประกอบด้วย โครงการเรียนรู้ เข้าถึง เข้าใจเพื่อสืบสาน และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ, โครงการพัฒนาและฝึกอาชีพให้แก่สตรีไทยในจังหวัดนำร่อง 4 จังหวัด, โครงการสร้างเสริม ส่งและสนับสนุนสนุนทักษะอาชีพแก่ผู้ต้องขังหญิงในทัณฑสถาน-เรือนจำกลางจังหวัด และทัณฑสถานหญิงธนบุรี, โครงการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่องค์กรสมาชิกสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ทั่วประเทศ, โครงการสร้างเสริมความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน แก่องค์กร, สมาชิกสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ และการสร้างเสริมความรู้และทักษะการจำหน่ายสินค้าออนไลน์, โครงการการมีกอบรมเพิ่มพูนทักษะวิชาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าและงานเย็บปักร้อย, สำหรับเยาวสตรีที่มีฐานะยากจนเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบน, โครงการเสริมสร้างทักษะการตัดเย็บ และการออกแบบผ้าทอพื้นเมือง(ผ้าขาวม้า), โครงการปฏิบัติธรรม น้อมนำถวายพระพรชัยมงคลฯ, โครงการสร้างเสริมบุญค้ำจุนศาสนา, โครงการมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชน 460 ทุน, โครงการส่งมอบชุดชั้นใน ด้วยความห่วงใยจากสภาสมาคมสตรีฯ สู่สตรีกลุ่มเปราะบาง กลุ่มด้อยโอกาส และผู้ต้องขังหญิง
ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการเทิดไท้องค์ราชัน ดั่งแสงทองส่องหล้า เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ซึ่งจัดแสดงพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย และโครงการพระราชดำริมากมาย
และทอดพระเนตรนิทรรศการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์จากทั่วประเทศ ซึ่งกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เข้าไปสนับสนุนการให้ความรู้และการผลิต โดยจัดจำหน่ายที่ร้านทอฝัน by พม., การสาธิตการปัก “สลากย้อม” เป็นงานหัตถศิลป์พื้นบ้านที่สะท้อนวัฒนธรรมของชาวลำพูน โดยกลุ่มปักผ้าสลากย้อม จังหวัดลำพูน และผ้าไหมจากกลุ่มศิลปาชีพสตรีทอผ้าไทยพวนหาดเสี้ยวเหนือ จังหวัดสุโขทัย และนิทรรศการกระทรวงวัฒนธรรม จัดแสดงผ้าทอจากศิลปินแห่งชาติหญิง และงานหัตถศิลป์ต่าง ๆ
นอกจากนี้ มีร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ต่าง ๆ ไปจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ร้านโกลเด้นเพลส, ร้านมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมรารูปถัมภ์ และร้านมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสนเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ พระบรมราชินีนาถ
ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานพระราชานุญาตให้วันที่ 1 สิงหาคม เป็นวันสตรีไทย ตั้งแต่ปี 2546 พร้อมให้ใช้ดอกกล้วยไม้แคทลียาควีนสิริกิติ์ เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันสตรีไทย