ผ่าอาณาจักรพันล้าน “ปุ้มปุ้ย” มหากาพย์ศึกกงสี “โตทับเที่ยง” ที่ยังไม่จบ
ผ่าอาณาจักรธุรกิจพันล้านบาท! “ปุ้มปุ้ย” ย้อนรอยมหากาพย์ศึก “กงสี” ตระกูล “โตทับเที่ยง” ที่ยังไม่จบ ค้นข้อมูล “กว้างโฮลดิ้ง” หุ้นใหญ่ 5 คีย์แมนสำคัญกลุ่ม “สุธรรม” ถือหุ้นอยู่
ทำท่าเหมือนจะจบลงด้วยดี สำหรับมหากาพย์การฟ้องร้องธุรกิจกงสีของตระกูล “โตทับเที่ยง” เจ้าของอาณาจักรปลากระป๋อง “ปุ้มปุ้ย” หลังยืดเยื้อมานานเกือบ 6 ปี
เนื่องจากในช่วงเช้าเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา นายสุธรรม โตทับเที่ยง พี่ชายคนโต และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ "ปุ้มปุ้ย" นัดแถลงข่าวถึงผลคำพิพากษาของศาลฎีกา โดยระบุว่า ตามคำพิพากษาแบ่งหุ้นทั้ง 19 บริษัทให้กับพี่น้องในตระกูลโตทับเที่ยงทั้ง 10 คน คนละ 1 ส่วน ส่วนของที่ดินต้องมีการคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร จะโอนเข้าบริษัทไหนซึ่งอยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน
“โดยวันนี้เป็นที่ยุติเรื่องความขัดแย้งในครอบครัว โดยหลังจากนี้บอร์ดบริหารจะนัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ส่วนการกลับเข้าไปเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ต้องเร่งรัดต่อไป ส่วนแนวทางการบริหารงานในอนาคตได้เตรียมการบุคลากรไว้อย่างพร้อมเพียงเพื่อความมั่นคงของบริษัท” นายสุธรรม ระบุ
อย่างไรก็ดีในช่วงเย็นวันเดียวกัน นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง ออกแถลงการณ์ตอบโต้กลุ่มนายสุธรรม โดยยืนยันว่า ศาลฎีกาไม่ได้มีคำพิพากษาว่าหุ้นใน บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ “ปุ้มปุ้ย” ที่ตนและครอบครัวมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นเป็นกงสีที่ต้องโอนคืนให้แก่นายสุธรรม กับพวกที่เป็นโจทก์ ดังนั้นตนและครอบครัวจึงยังคงเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จํากัด (มหาชน)
สำหรับที่ดินตามฟ้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นที่ดิน หรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จังหวัดตรังและที่กรุงเทพมหานคร ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้ยกคำขอที่นายสุธรรม กับพวก ขอให้นายสุรินทร์ กับพวก จดทะเบียนโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด และเมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาล อุทธรณ์จึงเป็นผลให้ที่ดินตามฟ้องไม่ใช่ที่ดินกงสีที่นายสุธรรมกับพวกที่เป็นโจทก์จะใช้สิทธิอ้างความเป็นเจ้าของได้ ดังนั้น เนื้อหาจาการแถลงข่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงตามคําพิพากษาศาลฎีกา
สำหรับต้นตอความขัดแย้งของเรื่องนี้ เกิดจากการบริหารงานภายในบริษัท กว้างโฮลดิ้ง จำกัด หนึ่งใน “กงสี” ของพี่น้องตระกูล “โตทับเที่ยง” และถือหุ้นอยู่ในบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) โดยนายสุธรรม และพี่น้องรวม 9 คน อ้างว่า นายสุรินทร์ กระทำการเป็นปรปักษ์ต่อพี่น้อง ด้วยการปลดคนในตระกูลออกจากการเป็นกรรมการบริษัท และผู้ถือหุ้น โดยอ้างว่าเป็นการทำโดยชอบธรรม เนื่องจากมีการปลอมรายงานการประชุม เพื่อแจ้งเท็จต่อนายทะเบียนพาณิชย์
อย่างไรก็ดีนายสุรินทร์ แถลงชี้แจงอ้างถึงปัญหาในการบริหารงาน และปัญหาธรรมาภิบาลภายในบริษัท โดยการบริหารของชุดเดิมสุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดความเสียหายแก่การทำธุรกรรมทางการค้าของบริษัท ทำให้คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เสียงส่วนใหญ่มีมติให้หยุดการทำธุรกรรมทั้งหมด และเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้อง
ทำให้มหากาพย์การฟ้องร้อง “ธุรกิจกงสี” ของตระกูลโตทับเที่ยงในตอนนี้ ไม่มีที่ท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ
โดยบริษัทที่เป็นชนวนเหตุของ “ศึกในตระกูล” ครั้งนี้ คือ บริษัท กว้างโฮลดิ้ง จำกัด (เดิมชื่อบริษัท สยามกว้าง จำกัด) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2527 ทุนปัจจุบัน 751,515,000 บาท ตั้งอยู่ที่ 43 อาคารธนสาร ถนนเชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด กิจกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
ปรากฏชื่อกรรมการปัจจุบัน ดังนี้
- นายสุธรรม โตทับเที่ยง
- นางสาวจุรี โตทับเที่ยง
- นายสลิล โตทับเที่ยง
- นางชุติมา โตทับเที่ยง
- นางสุวรรณี โตทับเที่ยง
- นางสิรินทร์ โตทับเที่ยง
- นางสาวสุนีย์ โตทับเที่ยง
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2565 มีบริษัท ยิ่งโต จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9297% และบริษัท กว้างไพศาล จำกัด ถือ 0.0319% ที่เหลืออยู่ในชื่อของนายทวีศักดิ์ นารายณ์ประทาน นางสาว รัชดา สังฆรักษาสัตย์ นางสาว มาริสา ขจรประดับกุล บริษัท เอ็กซ์ไซท์ รีสอร์ท จำกัด นางสาว บุษราคัม สินสุข นางจุฬา หวังศิริเลิศ นางจุรัตน์ มะนะสุทธิ์ นางสาว สายสิญจน์ สินสุข
ส่วนคนตระกูลโตทับเที่ยงถือหุ้นสัดส่วน 0.0007% เท่ากัน ได้แก่ นายสุธรรม โตทับเที่ยง นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง นายสินมั่น เลิศธนวงศ์ นายสลิล โตทับเที่ยง นางชุติมา โตทับเที่ยง นางอุทัยวรรณ โตทับเที่ยง นางสุวรรณี โตทับเที่ยง นางสิรินทร์ โตทับเที่ยง นางสาว จุรี โตทับเที่ยง นางสาว สุนีย์ โตทับเที่ยง นางสาว ศิริพร โตทับเที่ยง นายไกรสร โตทับเที่ยง นางปวิตา โตทับเที่ยง นางสาว ขิมพริ้ง โตทับเที่ยง และนายไกรสิน โตทับเที่ยง
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีสินทรัพย์รวม 4,352,785 บาท หนี้สินรวม 615,107 บาท มีรายได้รวม 3.82 บาท รายจ่ายรวม 47,364 บาท ขาดทุนสุทธิ 47,361 บาท
ส่วนปี 2563 ไม่ปรากฏข้อมูลการแจ้งงบการเงิน ส่วนปี 2562 มีรายได้รวม 33.2 บาท รายจ่ายรวม 62,565 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 2 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 2,062,531 บาท
ขณะที่บริษัท ยิ่งโต จำกัด ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดในบริษัท กว้างโฮลดิ้ง จำกัด พบว่า จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2557 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 43 อาคารธนสาร ถนนเชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้ง
ปรากฏชื่อกรรมการปัจจุบัน ดังนี้
- นายสุธรรม โตทับเที่ยง
- นางสุภัทรา สินสุข
- นางสาวจุรี โตทับเที่ยง
- นางสาวสุนีย์ โตทับเที่ยง
- นางสาวศิริพร โตทับเที่ยง
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2564 มีคนตระกูล “โตทับเที่ยง” 5 คน ถือหุ้นเท่ากันทั้งหมด คนละ 20% ได้แก่ นายสุธรรม โตทับเที่ยง นางสาว บุษราคัม สินสุข นางสาว จุรี โตทับเที่ยง นางสาว สุนีย์ โตทับเที่ยง และนางสาว ศิริพร โตทับเที่ยง
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 2,717,727 บาท หนี้สินรวม 1,840,000 บาท ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 14,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 14,0000 บาท
ขณะที่บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ “ปุ้มปุ้ย” จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2522 จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2537 ทุนปัจจุบัน 500,489,990 บาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 88/9 หมู่ที่ 4 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง
ปรากฏชื่อกรรมการปัจจุบัน ดังนี้
- นาย สุธรรม โตทับเที่ยง ประธานกรรมการ
- น.ส. ศิริพร โตทับเที่ยงประธานกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ และกรรมการ
- นาง จุรัตน์ มะนะสุทธิ์ รองประธานกรรมการ
- น.ส. สุนีย์ โตทับเที่ยง กรรมการ
- น.ส. จุรี โตทับเที่ยง กรรมการ
- นาง สุวรรณี โตทับเที่ยง กรรมการ
- นาง จุฬา หวังศิริเลิศ กรรมการ
- นาย เสริมสันต์ สินสุข กรรมการ
- น.ส. ยุพาพร จันทร์แช่มช้อย กรรมการอิสระ
- นาย ภัทร จึงกานต์กุล กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ
- นาย ศรัณยพงศ์ เที่ยงธรรม กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ
- นาย อรรคชัย สว่างไพศาลกุล กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ
รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 ลำดับแรก ได้แก่
- บริษัท กว้างโฮลดิ้ง จำกัด ถือ 48.93%
- นายไกรสิน โตทับเที่ยง ถือ 13.87%
- ธนาคารกรุงไทย ถือ 12.42%
- นายมานะ มหาสุวีระชัย ถือ 3.76%
- นาย ศักย์ มหาสุวีระชัย ถือ 2.41%
- นาย สมบัติ พานิชชีวะ ถือ 1.94%
- นาย สุรินทร์ โตทับเที่ยง ถือ 1.00%
- นาย ไกรฤทธิ์ โตทับเที่ยง ถือ 0.98%
- นาย สุธรรม โตทับเที่ยง ถือ 0.60%
- นาย สวัสดิ์ โตทับเที่ยง ถือ 0.51%
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปีงบประมาณ 2564 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2564) มีสินทรัพย์รวม 824.19 ล้านบาท หนี้สินรวม 534.01 ล้านบาท รายได้รวม 1,605.40 ล้านบาท กำไรสุทธิ 33.48 ล้านบาท
ทั้งหมดคือข้อมูลในส่วนของบริษัท ที่ถูกพาดพิง-อ้างชื่อพัวพันใน “มหากาพย์” คดี “กงสี” ของตระกูล “โตทับเที่ยง” อยู่ ณ เวลานี้ และยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเร็ว ๆ นี้เสียด้วย
