“ก้าวไกล” ประชุมใหญ่คึกคัก “พิธา” ตั้งเป้ากวาด ส.ส.เกิน 100 ที่นั่ง
“ก้าวไกล” จัดประชุมใหญ่คึกคัก แกนนำ-ตัวแทน 77 จังหวัด-สมาชิกพรึบ เตรียมถกแก้ไขข้อบังคับ-เปิดคนนอกร่วมตรวจสอบ เตรียมเปลี่ยนทีมโฆษก “พิธา” ลั่นกวาด ส.ส.เกิน 100 เก้าอี้ “ชัยธวัช” เดินสายอบรมว่าที่ผู้สมัครให้ครบ 400 เขต
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 เม.ย. 2565 ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคก้าวไกล จัดประชุมสามัญใหญ่ประจำปี 2565 โดยช่วงเช้ามีกรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยตัวแทนสมาชิกพรรคภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคเหนือ กทม. ปริมณฑล และสาขาพรรค โดยภายในงานได้ปฎิบัติตามมาตรการสาธารณสุขทั้งการเว้นระยะห่าง และทุกคนที่เข้าร่วมงานจะต้องได้รับการตรวจ ATK เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19
โดยวาระการประชุมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการดำเนินกิจกรรมของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา พิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการเงินในรอบปีที่ผ่านมา พิจารณาการแก้ไขข้อบังคับพรรค และรายงานผลการดำเนินงานและแผนงานในอนาคตของพรรค
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึงการตั้งเป้ากวาด ส.ส.ในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าว่า มีตัวเลขในใจทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่จะพยายามพูดคุยกันภายใน ไม่อยากนำตัวเลขเป็นตัวหลัก แล้วทำให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ไปนั่งคิดว่า เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้นหรือไม่ แต่สำหรับวิธีคิดคือ การดูจากผลการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว และผลการเลือกตั้งของคณะก้าวหน้า รวมถึงปัจจัยที่เราต่อสู้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง เช่น พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา หรือ พื้นที่บางกลอย จ.เพชรบุรี มั่นใจว่า น่าจะได้ส.ส.เกิน 100 คน
เมื่อถามว่า จะปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์เตรียมพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้ ส.ส. มากกว่า 100 คน นายพิธา กล่าวว่า เราจะทำงานหนักมากขึ้น ทำงานละเอียดมากขึ้น และทำงานด้วยข้อมูลมากขึ้น ครั้งที่แล้วสมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ มีเวลาเตรียมตัวค่อนข้างน้อย ตอนนี้เราเริ่มทำงานมาเป็นปีแล้วในการเตรียมตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และทำงานในพื้นที่อย่างเข้มข้นมากขึ้น ประกอบกับการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรของ ส.ส. พรรคก้าวไกล ที่จะเป็นการทำงานคู่ขนาน
เมื่อถามว่า หลายพรรคมี ส.ส.ไหลเข้าไหลออก ส่วนพรรรคก้าวไกล มีใครไหลเข้าบ้าง นายพิธา กล่าวว่า ขอให้รอดูในงานช่วงบ่ายวันนี้ เพราะมีคนเข้ามาเรื่อย ๆ และมีความหลากหลาย สมกับที่พรรคต้องการ โดยจุดแข็งของพรรคก้าวไกลคือ ความหลากหลายของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่มาจากหลายกลุ่ม เช่น กลุ่ม LGBTQ กลุ่มชาติพันธุ์ คนที่มีประสบการณ์การเมือง และคนที่ไม่มีประสบการณ์การเมือง
“ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงได้เมื่อความกระจุกได้กระจายออก ผ่านการกระจายอำนาจ ในเชิงเศรษฐกิจที่ทำแบบบนลงล่าง ต้องเปลี่ยนมาเป็นแบบฐานรากขึ้นมาข้างบน โดยการทลายทุนผูกขาด ส่วนวิธีการมอง ต้องเป็นแบบจากข้างนอกเข้ามาข้างใน ไม่ใช่จากข้างในออกมาข้างนอก และไม่ใช่การนำความเป็นไทยไปสู่ข้างนอก ถ้าเราเขย่าประเทศกลับหัวกลับหางแบบนี้ได้ ประเทศไทยจึงจะมีทางรอด” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวอีกว่า งานวันนี้จะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้าเป็นการประชุมภายในพรรค เกี่ยวกับสถานะการเงินของพรรค และข้อบังคับพรรค ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการคุกคามทางเพศ ในอดีตดูแลเฉพาะบุคลากรภายในพรรค แต่ครั้งนี้จะครอบคลุมไปบุคลากรภายนอกพรรคด้วย เพราะการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และจะเปลี่ยนข้อบังคับพรรคให้อนุญาตให้คนนอกเข้ามาร่วมตรวจสอบได้ ส่วนระยะเวลาการตรวจสอบ ข้อบังคับเก่ากำหนดไว้ 30 วัน แต่ข้อบังคับใหม่จะขยายเวลาเพื่อให้มีเวลาตรวจสอบมากขึ้น
นายพิธา กล่าวด้วยว่า ในช่วงบ่ายจะเป็นภาคต่อของการประชุมใหญ่ครั้งที่ผ่านมา ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงปลายปี 2564 ที่ได้พูดคุยเรื่องวิถีก้าวไกล แต่ในครั้งนี้จะเป็นเรื่องวิสัยทัศน์ก้าวไกล ถือว่าวันนี้ เป็นวันที่เราขยับเข้าโหมดสู่การเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเป็นวันแรก โดยจะพูดถึงเรื่องตั้งแต่เรื่องตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ วิสัยทัศน์ใหม่ๆ โครงสร้างใหม่ๆ และบุคลากรใหม่ๆ
ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกล ว่า เรื่องการเตรียมความพร้อมของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และการจัดตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เดินหน้าใกล้ครบ 400 เขตแล้ว ช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ปิดสมัยประชุมสภาฯ เราจัดงานอบรมและเตรียมพร้อมว่าที่ผู้สมัครส.ส. ไปแล้ว 9 ครั้ง ครบทุกภูมิภาค แต่จะทยอยทำเรื่อย ๆ จนครบ 400 เขต นอกจากนี้จะปรับกองอำนวยการการเลือกตั้ง ปรับทีมงาน และปรับการสื่อสารของพรรค ในวันนี้จะแจ้งในที่ประชุมใหญ่ถึงการปรับทีมโฆษกพรรค และแน่นอนว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล มีคนเดียวคือ นายพิธา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม นายพิธา กล่าวต้อนรับและเปิดประชุม ตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกที่เต็มองคาพยพ มีสมาชิกครบทุกจังหวัดของประเทศไทยเข้าร่วม โดยในที่ประชุมจะเปลี่ยนประเด็นพูดคุยจากวิถีก้าวไกล เป็นวิสัยก้าวไกล เพื่อพาประเทศไทยไปสู่ศตวรรษที่ 21 และให้สอดรับกับสถานการณ์ภายในและภายนอก ทั้งระยะสั้นและระยะยาว