"นิกร" ย้ำหลักการ บัตรใบเดียว ต้องใช้สูตรคำนวณส.ส.หาร100
“นิกร” ย้ำสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามรธน.ฉบับแก้ไข ต้องหาร ด้วย 100 ชี้ ข้อเสนอให้หาร 500 ขัดรัฐธรรมนูญ พร้อมกางไทม์ไลน์ถกกฎหมายลูก คาดเสร็จทันยื่น “ชวน” 24 พฤษภาคม นี้
นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.ป.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมกมธ.ฯ ว่า กมธ.จะพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่..) พ.ศ... ให้แล้วเสร็จในครึ่งวันเช้า ซึ่งขณะนี้เหลือเพียง 6 มาตรา เท่านั้น จากนั้นในช่วงบ่ายจะพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ... ที่ยังเหลืออีกหลายมาตรา
นายนิกร กล่าวด้วยว่าสำหรับร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีประเด็นพิจารณาสำคัญ คือ สูตรคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ที่ตามร่างหลักใช้ตัวเลข 100 เป็นจำนวนหารเพื่อหาส.ส. ขณะเดียวทราบว่ามีข้อเสนอให้ใช้ตัวเลข 500 หาร
นายนิกร กล่าวในเห็นส่วนตัว ว่า เจตนารมณ์ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ให้มีบัตรเลือกตั้ง2 ใบ ต้องหารด้วยจำนวน 100 ซึ่งเป็นไปตามหลักการการเลือกตั้งปี 2554 ดังนั้นกรณีที่มีคนอ้างว่ามาตรา 93 และ มาตรา 94 ยังคงคำว่าส.ส.พึงมี ตนขอชี้แจงว่าเป็นส่วนที่ใช้ไม่ได้ กับรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข เพราะเป็นคำอธิบายสัดส่วนผสมเป็นบัตรใบเดียว
“ผมมาจากพรรคขนาดกลาง ในตอนนั้นที่แก้ไขรัฐธรรมนูญมีการเสนอ MMP ขึ้นมา ฟังดูดีและผมพยายามช่วย โดยผมเป็นคนเดียวที่สงวนคำแปรญัตติ เพื่อจะใช้กับ MMP ให้มีทางออกตรงนี้ และได้บอกกับผู้ที่เสนอว่าให้ไปหาวิธีคำนวณ ผู้เสนอพยายามไปหาผู้รู้ที่มีความชำนาญเรื่อง MMP ว่ามีวิธีการคำนวณหรือไม่ บทสรุปคือไม่มีวิธีการคำนวณที่จะใช้ได้ ทั้งนี้เราจะต้องพิจารณาเรื่องข้อบังคับและการขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งแม้ว่าจะผ่านมาได้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะคำนวณไม่ได้ ดังนั้นผมจะลงมติไม่เห็นชอบหากมีการเสนอหารด้วย 500 เพราะขัดรัฐธรรมนูญและเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้” นายนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวยืนยันว่าจะทำร่างพ.ร.ป. ทั้ง 2 ฉบับให้แล้วเสร็จ โดยสัปดาห์หน้า วันที่ 11-12 พฤษภาคม จะพิจารณา ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้เสร็จ แต่หากไม่เสร็จจะขอเพิ่มวันประชุม ในวันที่ 13 พฤษภาคม และในวันที่ 18 พฤษภาคม จะออกหนังสือเชิญผู้แปรญัตติ ประมาณ 14-15 คนเข้ามาพูดคุยกัน จากนั้นวันที่ 19 พฤษภาคม กมธ.จะประชุมเพื่อสรุปรายงาน และ วันที่ 20-22 พฤษภาคม ฝ่ายเลขาฯ จะทำรายงานให้เสร็จ ก่อนที่ กมธ.จะรับรองรายงาน วันที่ 23 พฤษภาคม และวันที่ 24 พฤษภาคม จะยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา.