ถ้ารักชาติให้ลาออก! "กรุณพล" ชี้ "บิ๊กตู่" ไร้ความสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

ถ้ารักชาติให้ลาออก! "กรุณพล" ชี้ "บิ๊กตู่" ไร้ความสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

"เพชร กรุณพล" วอน "ประยุทธ์" รู้ตัวไร้ความสามารถแก้เศรษฐกิจ แนะเร่งเติมเงินในกระเป๋าประชาชน ช่วยทุกฝ่ายอยู่รอด ถ้าทำไม่ได้ให้ลาออกเพื่อชาติ

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2565 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในขณะนี้ว่า เป็นผลมาจากความไร้วิสัยทัศน์และความสามารถของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่บริหารประเทศยาวนานถึง 8 ปี จนทุกอย่างหมดสภาพ ไม่เหลือกลไกรับมือวิกฤตค่าครองชีพได้ ข้าวของแพง ค่าแรงถูก ซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจหลังโควิดซึ่งไม่สามารถฟื้นตัวได้เสียที ทั้งที่มีการกู้เงินไปแล้วมหาศาล แต่ถูกใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพจนประชาชนไม่เหลือความเชื่อมั่นอีก ต้องบอกว่า ขณะนี้ประเทศยังคงอยู่ในภาวะคับขันที่ต้องการเม็ดเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือต้องกู้รอบใหม่ แต่เราคงไม่อาจเชื่อมั่นให้เงินก้อนนี้ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้บริหารได้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ รักประเทศจริง อย่างที่มักประกาศต่อสังคม ก็ขอให้รู้ตัวเองได้แล้วว่าไร้ความสามารถในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจแล้วออกไปเพื่อเห็นแก่ประชาชน

“เราคงต้องยอมรับว่า ผลกระทบสินค้าราคาแพง ทั้งน้ำมันและสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ส่วนหนึ่งมาจากวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลประยุทธ์ ไม่ได้มีมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาว มีแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบครึ่งๆกลางๆ เช่น คนละครึ่ง หรือออกร้านธงฟ้า และที่น่าขายหน้าที่สุดคือให้ทหารช่วยปลูกผักช่วยเลี้ยงหมูเมื่อสินค้าราคาแพง ถึงเวลาที่เราจะต้องเอาคนที่เหมาะสมและมีความรู้เข้ามาบริหารประเทศและแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบจริงๆจังๆเสียที”

นายกรุณพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ประเทศยังเหลือความหวัง แต่จะมืดมิดทันที หากคนแก้ยังคงเป็น พล.อ.ประยุทธ์ เรายังมีเงินทุนสำรองจำนวนมากที่สามารถนำไปลงทุนให้เกิดรายได้ เรามีเงินกู้ที่กู้มาแก้ปัญหาโควิดและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กลับไม่ใช้อย่างชาญฉลาด เลือกที่จะกดราคาสินค้าให้ต่ำ แล้วสุดท้ายผู้ประกอบการจะแบกต้นทุนไม่ไหวทยอยล้มหายตายจากไปทีละราย สิ่งที่ควรทำทันทีในเวลานี้ คือการเพิ่มเงินในกระเป๋าประชาชน เพื่อให้มีกำลังในการใช้จ่ายมากขึ้น โดยผู้ประกอบการยังสามารถขายของได้ตามราคาตลาดที่แท้จริง 

นายกรุณพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ในระยะยาว รัฐบาลควรย้อนกลับไปดูข้อมูลที่จัดเก็บจากแอปต่างๆและบัตรสวัสดิการของรัฐ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการขยายจำนวนผู้ได้รับสวัสดิการ เนื่องจากปัจจุบันมีคนยากจนเพิ่มขึ้นจำนวนมากหลังการระบาดของโควิดตลอด 2 ปีมานี้ แต่ฐานข้อมูลที่มียังไม่อัพเดต การขยายจำนวนผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามข้อมูลที่เป็นจริงจะช่วยกระจายความช่วยเหลือลงไปถึงคนที่ทุกข์ร้อนจากการบริหารงานที่ผิดพลาดตลอด 8 ปีที่ยึดอำนาจและกลายร่างมาเป็นนักการเมืองด้วย 

“ผมคิดว่าประชาชนคนไทยไม่มีความผิด จึงไม่ควรถูกลงโทษด้วยการมีนายกรัฐมนตรี ชื่อ ประยุทธ์ อีกต่อไปแล้ว” นายกรุณพล กล่าว