"สุชาติ" โต้ กระแสเบื่อ "ลุงตู่" โว คนยังรัก "ประยุทธ์" เยอะมาก

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคพลังประชารัฐได้ ส.ก. เพียง 2 ที่นั่ง สะท้อนถึงฐานเสียงและคะแนนนิยมหรือไม่ ว่า เป็นเพียงองค์ประกอบบางส่วน และขึ้นอยู่กับว่าประชาชนตัดสินใจในช่วงสถานการณ์นั้นๆ ว่าประเทศชาติจะเดินหน้าอย่างไร โดยเชื่อมั่นว่าพรรคพลังประชารัฐ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีภาพลักษณ์ในเรื่องของการซื่อสัตย์สุจริต แม้จะถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง แต่ที่ผ่านมาต้องเจอกับหลายวิกฤติทั้งสถานการณ์โควิดและสงครามรัสเซียยูเครน ซึ่งเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤต ดังนั้น ขอให้มองภาพเป็นกลาง

นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้มองว่าการเลือกตั้งก็ กทม. ไม่ได้เป็นแลนด์สไลด์ใดๆ ทั้งสิ้นอย่าง การเลือกตั้งซ่อมราชบุรีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้คะแนนท่วมท้นขึ้นอยู่กับพื้นที่ของใครมากกว่า 

ขณะที่คะแนนของพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลเหมือนคะแนนจะเท ไปที่พรรคฝ่ายค้านนั้นนายสุชาติ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยได้ ส.ก. 20 ที่เพราะไม่ได้ส่งผู้ว่า แต่หากส่งผู้ว่าฯ ไม่รู้ว่าจะถึง 20 ที่หรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับการวางแผนเลือกตั้งมากกว่า

นายสุชาติ ยังยินดีกับผู้ชนะการเลือกตั้ง ขอให้ทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองเพื่อประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ปฏิบัติตามที่ได้ หาเสียงไว้ เพราะคำพูดเป็นนาย หาเสียงอะไรไว้ก็ต้องทำให้ได้ ถ้าทำได้ก็จะได้คะแนนทวีคูณ ซึ่งต้องดูยาวๆ พร้อมยอมรับว่าการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น พรรคพลังประชารัฐต้องมีการทำการบ้าน นำผลคะแนนการเลือกตั้งครั้งนี้ มาวิเคราะห์ 

อย่างไรก็ตามส่วนตัวยังเชื่อมั่นศักยภาพของ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ พร้อมย้ำว่าการเลือกตั้ง กทม. กับเลือกตั้งใหญ่มีความแตกต่างกัน เพราะการเลือก ส.ส. คือการเลือกผู้แทนเลือกคนมาบริหารประเทศ และเลือกนายกรัฐมนตรีจากการเลือกผู้ว่าฯ และ สก. คือการเลือกคนมาบริหารท้องถิ่น  แต่ต้องไม่ประมาท ส.ส.ในพรรคทุกคนต้องเน้นดูแลพื้นที่ตัวเอง 

ส่วนข้อกังวลต่อกระแสเบื่อลุงตู่แล้วเปลี่ยนขั้วนั้น นายสุชาติ ระบุว่า วันนี้คนที่รักลุงก็มีเยอะมากคนก็ กทม. หลายคนก็เสียใจ  

ส่วนประเด็น พรรคเล็กไปกินข้าวกับ ส.ส. พรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องปกติ ซึ่งนายพิเชษฐ์ สถิรชวาลย์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ก็ยังพูดคุยกับต้นปกติ แต่ก็เป็นสิทธิ์ที่จะไปทานข้าว จะไปห้ามว่าไปได้หรือไม่ก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย และตนไม่กล้าที่จะก้าวล่วงเพราะไม่ใช่บริบท แต่ยังมั่นใจว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะพรรคเล็กสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ มาตั้งแต่แรก และเมื่อถึงคราวที่ต้องใช้เสียงสนับสนุนก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่สนับสนุน การที่นายพิเชษฐ์ สนิทกับคนหลายคนรวมถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นั้นก็ถือเป็นเรื่องปกติเพราะนายพิเชษฐ์เป็นผู้ใหญ่น้องๆ ในวงการการเมืองอาจจะขอความรู้หรือมีการปรึกษากันบ้างเป็นเรื่องปกติ