"อนุพงษ์" ให้อำนาจเต็ม "ผู้ว่าฯ กทม.- สภา กทม." แก้ปัญหาสัญญาบีทีเอส

         พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตอบกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาฯ ต่อการแก้ไขปัญหาของการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมถึงการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งตั้งถามโดยนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ว่า เรื่องดังกล่าว ตนและ ครม. ไม่มีอำนาจที่จะตัดสินใจ เพราะต้องให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสภากรุงเทพมหานคร เป็นผู้ตัดสินใจ และเสนอแนวทางมายัง ครม.  ส่วนกรณีที่มีการลงนามสัญญาจ้างการเดินรถไฟนั้น ไม่ใช่การให้สัมปทาน แต่คือการหาผู้รับจ้างเดินรถ ซึ่งกฤษฎีกายืนยันว่าเมื่อลงนามแล้วมีผลถูกต้อง แต่ผู้ที่ทำเรื่องดังกล่าวจะผิดหรือถูกต้องสืบสวน 

 

 

          “ตอนนี้ ครม. ไม่มีการลงมติใดๆ ผมบอกได้ว่า เรื่องนี้ต้องถาม กทม. ผู้บริหารที่เข้ามาใหม่ รวมถึงสภากทม.ที่มาใหม่ ซึ่งผมเชื่อว่ามีความตั้งใจในการบริหารให้ดีที่สุดในการกำหนดแนวทาง ส่วนผมนั้นไม่มีอำนาจที่จะไปร่วมด้วย แต่กำกับได้ว่าต้องอยู่บนผลประโยชน์ประชาชน ดังนั้นผู้บริหาร และสภา กทม.​ต้องทำตามหน้าที่ และแจ้งมายัง ครม.  ว่าทำได้ หรือ ยุติเรื่อง ส่วนเรื่องที่ คสช.ทำมานั้น ​ไม่ต้องสนใจ”พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจง

 

        ทั้งนี้นาประเดิมชัย ตั้งถามด้วยว่า ในฐานะที่กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแล กทม.จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ และเหตุใด กทม. ต่อสัญญาออกไปอีก 13 ปี

 

           โดย พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงยืนยันว่าขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ที่เลขาธิการ ครม. ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ชะลอการพิจารณาเอาไว้ก่อนเพื่อรอผู้บริหารและสภาหรุงเทพมหานครชุดใหม่ และจะให้ทางเลขาธอการ ครม.ทำเรื่องกลับไปสอบถามผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ว่าเรื่องนี้จะดำเนินการต่ออย่างไร และทำความเห็นกลับมาให้ ครม. อีกครั้ง

          "ตอนนี้ ยังไม่มีการต่อสัญญา แต่เป็นการว่าจ้างเดินรถไปอีก 13 ปี เนื่องจากยังไม่มีบริษัทเอกชนเข้ามาจัดการเรื่องการเดินรถ ทำให้ กทม.ก็ต้องว่าจ้างการรถไฟ เข้ามาเดินรถไปพลางก่อน โดยไม่เก็บค่าโดยสาร ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ขณะนี้ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้วหากพบความผิดปกติก็จึงจะเป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทยที่สั่งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ทำความผิดหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ถ้าผิดก็ต้องถูกดำเนินการ" พล.อ.อนุพงษ์​ชี้แจง

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์