"นายกฯ" พอใจ แนวโน้ม "โควิด" ในไทยดีขึ้น แต่ยังต้องระวัง ประมาทไม่ได้
"โฆษกรัฐบาล" เผย "นายกฯ" พอใจสถานการณ์โควิด-19 ในไทย แนวโน้มดีขึ้น ย้ำ ผู้ประกอบการ-ปชช. ต้องปฏิบัติตามมาตรการ ประมาทไม่ได้ เหตุ ยังพบสายพันธุ์ย่อยที่อันตราย ในต่างประเทศ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีแนวโนมที่ดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงและมีการรักษาตัวที่บ้าน (home isolation) เพิ่มมากขึ้น ทำให้โรงพยาบาลต่าง ๆ เตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบการรักษาปกติ โรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มทยอยยุบวอร์ดโควิด-19 ลง และเริ่มหันกลับมารักษาผู้ป่วยโรคทั่วไป และทำการผ่าตัดมากยิ่งขึ้น
กระทรวงสาธารณสุขได้คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โรงพยาบาลอื่นๆ ทั่วประเทศจะมีการดูแลผู้ป่วยโรคทั่วไปเพิ่มมากขึ้น แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขไม่มีการระบาดที่รุนแรงหรือพบเชื้อกลายพันธุ์
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังฝากไปยังผู้ประกอบธุรกิจ กิจการต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และประชาชนยังต้องป้องกันตนเองตาม Universal Prevention ของกระทรวงสาธารณสุข สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ถึงแม้ยอดผู้ติดเชื้อจะลดลง เพราะในต่างประเทศยังคงพบสายพันธุ์ย่อยที่มีความอันตรายอยู่ จึงประมาทหรือไว้วางใจไม่ได้
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 4,837 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อในประเทศ 4,833 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 4 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 29 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัว 46,205 ราย และมียอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 5,198 รายทำให้มียอดผู้ป่วย ยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 จำนวน 2,211,076 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยสะสมจำนวน 2,189,902 ราย จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 979 รายเฉลี่ยจังหวัดละ 13 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 13.8
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์โควิด-19 เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลเข้าสู่การรักษาผู้ป่วยโรคทั่วไป แม้แนวโน้มเริ่มดีขึ้น แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ โดยวันนี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 4,837 ราย