“นายทุน” เซย์โน “เจ้าของสวนกล้วย” ปฏิบัติการล้ม “ประยุทธ์” ใครจ่าย ?
มีกระแสข่าวว่า “เจ้าของสวนกล้วย” พยายามเดินหา “นายทุน” เพื่อเจรจาขอการสนับสนุนล้ม “ประยุทธ์” แต่บรรดา “นายทุนรายใหญ่” กลับเซย์โน เพราะมองว่าหากต้องจับจ่ายใช้สอยในช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งเหลืออายุรัฐบาลไม่ถึง 10 เดือน ได้ไม่คุ้มเสีย
ความพยายามไม่ลดละของ “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ในการล้ม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม กลับมาสั่นสะเทือนการเมืองอีกครั้ง เพราะมีแนวร่วมทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น
“ธรรมนัส” นับวันรอนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นทางการ จะได้คอนโทรล 16 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ได้อย่างเบ็ดเสร็จ และสามารถกำหนดทิศทางให้ 16 ส.ส.เคลื่อนเกมการเมืองด้วยตัวเอง ไม่ต้องขึ้นตรงกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย อีกต่อไป
นอกจาก 16 ส.ส. พรรคเศรษฐกิจไทย “ธรรมนัส” ยังมี “ส.ส.กลุ่ม 16” คอยเป็นแบ็คอัพให้อีกทางหนึ่ง นับหัวแล้วมีไม่น้อยกว่า 20 ส.ส. ส่วนจะถึง 40 อย่างที่เจ้าตัวอ้างว่าฝากเลี้ยงไว้ตามพรรคต่างๆ จริงหรือไม่ เอาไว้ค่อยนับมือกันในช่วงทีเด็ดทีขาด
แนวร่วมอีกราย ที่หาแสงด้วยการเป็นตัวแปร เพื่อให้ “กลุ่ม 16” ดูมีพลังมากขึ้น คือ “มนูญ สิวาภิรมย์รัตน์” หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งอยู่ร่วม “ขั้วรัฐบาล” แต่ระยะหลังเดินแรง-เดินร่วมกับ “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.พลังประชารัฐ หัวหน้า กลุ่ม 16
ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา “กลุ่ม 16” มักถูกมองว่าขับเคลื่อนด้วย “กล้วย” ฉะนั้นใครสร้าง "สวนกล้วย” ได้มากกว่ากัน ย่อมล่อตาล่อใจได้มาก เนื่องจากหลายคนรู้ตัวดีว่ากฎหมายเลือกตั้งบัตรสองใบ และสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์หาร 100 ทำให้โอกาสกลับมานั่งเก้าอี้ ส.ส. ของพวกเขาลดน้อยลง หากจะเก็บ “กล้วย” ไว้ยังชีพได้มากเท่าไรต้องรีบทำ
ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวว่า “เจ้าของสวนกล้วย” พยายามเดินหา “นายทุน” เพื่อเจรจาขอการสนับสนุน เพื่อเป็นปัจจัยสำคัญในการล้ม “ประยุทธ์” แต่บรรดา “นายทุนรายใหญ่” กลับเซย์โน เพราะมองว่าหากต้องจับจ่ายใช้สอยในช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งเหลืออายุรัฐบาลไม่ถึง 10 เดือน ย่อมไม่เป็นประโยชน์ ที่สำคัญต้องเตรียมทุุนไว้สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าจะคุ้มกว่า
ว่ากันว่า ทั้ง “นายทุนดูไบ” – “นายทุนแดนมังกร” ไม่มีนายทุนคนไหนเต็มใจควักกระเป๋า จ่ายให้เจ้าของสวนกล้วย เพื่อปฏิบัติการ “ล้มประยุทธ์”
ทำให้แต่ละรายถึงกับเงื้อค้าง เสียรังวัดไปพอสมควร แต่เลือดนักสู้ของ “เจ้าของสวนกล้วย” ย่อมประมาทไม่ได้ เนื่องจากการล้มรัฐบาลและประยุทธ์ คือเดิมพันทางการเมืองครั้งสุดท้าย