คว่ำงบขย่ม "ประยุทธ์" โหมโรง "2 เกมวัดใจ"

คว่ำงบขย่ม "ประยุทธ์" โหมโรง "2 เกมวัดใจ"

เกมล้มรัฐบาลผ่านงบ66 แม้ล่าสุด “บิ๊กรัฐบาล”จะมั่นอกมั่นใจว่า ควบคุมเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทว่า กลเกมการเมืองที่เกิดขึ้นไม่ต่างอะไรจากการ "โหมโรง" หวังผลไปถึงการ "เขย่าพล.อ.ประยุทธ์" ผ่านศึกใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า

“ดีกรีการเมือง” ร้อนแรงด้วย “เกมวัดพลัง” ท่ามกลางกระแสคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ประจำปี 2566 ในวาระรับหลักการวาระแรกในวันที่ 2 มิ.ย.นี้

เกมรอบนี้ไม่ได้หวังเพียงแค่การสั่นคลอนรัฐบาลเท่านั้น หากแต่ยังหวังไปถึง “บิ๊กดีล”ครั้งสำคัญในการดึง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงจากเก้าอี้ สร.1 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

“สูตรคณิตศาสตร์การเมือง” 40 เสียงสวิงโหวต ถูกมองว่าเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ไม่ต่างอะไรกับเกมยื่นหมูยื่นแมว สร้างมูลค่า “ราคากล้วย”

อย่างที่รู้ว่า กลเกม ”บล็อกเสียงโหวต” รอบนี้ มีเดิมพันสำคัญที่อาจตามมาด้วยการ “ลาออก” หรือ “ยุบสภา” หากที่สุดแล้วงบประมาณไม่ผ่านวาระแรก

ตอกย้ำชัดจากสัญญาณ “2 บิ๊กรัฐบาล” โดยเฉพาะพี่น้อง “2 ป.” ประกาศกลางวง ครม.เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยเฉพาะ “ป.ป้อม” พลล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เปิดป่ารอยต่อเคลียร์ใจพรรคเล็ก ซ้ำยืนยันกลางวง ครม.

“ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะผ่านการอภิปรายในสภาฯ ทั้งงบประมาณปี 2566 และการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งที่จะเกิดขึ้นไปได้ และรัฐบาลจะอยู่ครบเทอมแน่นอน”

ไม่ต่างจาก “ป.ประยุทธ์” ผู้น้อง พูดกลางวงประชุมครม. ขอให้รัฐมนตรี รวมถึงสมาชิกซีกรัฐบาล ช่วยกันชี้แจง และอยู่กันเป็นองค์ประชุมในสภาฯ และให้รัฐมนตรีอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงรายละเอียดของงบที่จะนำไปใช้ให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาล

เกมวัดพลังรอบนี้ แม้ท่าทีล่าสุด หากฝั่ง “บิ๊กรัฐบาล”จะออกอาการมั่นอกมั่นใจว่า ควบคุมเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่มีแตกแถว

สอดรับกับท่าทีล่าสุดของคีย์แมนคนสำคัญอย่าง “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ล่าสุดยืนยันว่าพรรคเศรษฐกิจไทยจะให้ผ่านงบประมาณในวาระแรก

ทว่า หากมองในทางการเมือง กลเกมรอบนี้ไม่ต่างอะไรกับ “เกมโหมโรง” ที่หวังผลการขย่มรัฐบาลประยุทธ์ในอนาคต 

เพราะต้องไม่ลืมว่า นอกเหนือจากศึกงบประมาณ ที่จะสามารถสั่นคลอนความเชื่อมั่นรัฐบาลประยุทธ์ได้แล้ว ยังมีศึกใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า นั่นคือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ หวังเปิดศึกในเดือน ก.ค.

“ศึกซักฟอก” รอบนี้ ฝ่ายค้านโหมโรงมาตั้งแต่ไก่โห่ ฉายภาพ 6 กรอบความล้มเหลวรัฐบาลประยุทธ์ ช่วงปลายเทอม

 ยิ่งไปกว่านั้น ต้องไม่ลืมว่า ศึกซักฟอกรอบที่แล้วเมื่อเดือน ก.ย.2564 ครั้งนั้น “พล.อ.ประยุทธ์” เสียรังวัดจากผลคคะแนนที่ออกมา เพราะได้คะแนน “ไม่ไว้วางใจ” มากสุดในบรรดารัฐมนตรี ทั้ง 6 คน ถึง 208 เสียง 

สาเหตุมาจาก 1.พรรคเล็กเสียงแตกในการโหวต 2.ส.ส.ฝ่ายค้าน อาทิ พรรคเพื่อชาติ 5 คน ลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ ทั้งหมด แต่การลงมติให้รัฐมนตรีอีก 5 คนเพื่อชาติ 4 คน“งดออกเสียง” จึงทำให้คะแนนไม่ไว้วางใจนายกฯ มากกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆ

ขณะที่คะแนน“ไว้วางใจ”ในครั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ 264 คะแนนจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่เวลานั้นมี 119 เสียง ลงมติแบบ“ไม่แตกแถว” ไม่เว้นแม้แต่ “ก๊วนผู้กองธรรมนัส” ที่ยามนี้เก็บแรงแค้น อันมีผลต่อเนื่องมาจากศึกครั้งก่อน แปรเปลี่ยนกลายเป็น”หอกข้างแคร่” ที่พร้อมทิ่มแทง พล.อ.ประยุทธ์ทุกเมื่อ

ไม่ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ รอบที่แล้วมี 2 เสียง คือ อันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ที่โหวตสวน ไม่ไว้วางใจ และพนิต วิกิตเศรษฐ์ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่โหวต งดออกเสียง

เช่นเดียวกับศึกซักฟอกรอบนี้ เริ่มมีท่าทีมาจาก “บิ๊กเนม” พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคที่ยอมรับว่า อาจมี 2-3 เสียงพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่สามารถคอนโทรลได้

ยังไม่นับรวม “ปมร้อน 8 ปี” สถานะ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยามนี้ยังมีปัญหาถกเถียงในเรื่องการ “ตีความข้อกฎหมาย” 3 ช่วงเวลาการดำรงตำแหน่ง 

1.นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาล คสช. ในเดือน ส.ค.ปี 2557 เท่ากับว่า จะครบ 8 ปีในเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้

2.นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2560 มีผลบังคับใช้ ในวันที่ 6 เม.ย.2560 เท่ากับว่า สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปสิ้นสุดในปี 2568

3.นับตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.2562 ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์เริ่มปฏิบัติหน้าที่ หลังการเลือกตั้งปี 2562 เท่ากับว่า สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปสิ้นสุดในปี 2570

แม้ยามนี้ฝั่ง “บิ๊กรัฐบาล” จะยังมั่นอกมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถอยู่ยาวไปได้ถึงปี 2570

แต่ด้วยกลเกมการเมืองที่ทั้งเขย่าและขย่มเก้าอี้ สร.1 อยู่รายวัน ไม่ต่างอะไรกับการโหมโรงที่หวังผลไปถึงศึกใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า และอาจทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เองต้องอกสั่นขวัญผวาอยู่ไม่น้อย