"วราวุธ" ยันไม่มีรอยร้าว ในพรรคร่วมรัฐบาล
"วราวุธ" มอง ปมทะเลาะ "ชาดา-ณัฐวุฒิ" เป็นสีสันของสภาฯ รออภิปรายนาน จึงหงุดหงิด มั่นใจไม่ลามเป็นปัญหาการเมือง
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฐานะ ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนากับ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระหว่างการประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วันที่ 2 มิถุนายน ว่า ตนได้พูดคุยกับนายณัฐวุฒิ และนายชาดาแล้ว ไม่มีอะไร แต่การประชุมสภาฯที่ใช้เวลานาน สมาชิกที่รอนานอาจเหนื่อยล้าและมีอาการหงุดหงิด ซึ่งมีความหงุดหงิดทั้งคู่ จึงขึ้นเสียงใส่กันบ้าง ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่าเป็นสีสันของสภา ทั้งนี้ ส.ส.ทุกคนคือพี่น้องกัน นายชาดา เคยอยู่พรรคชาติไทยมาก่อน ส่วนนายณัฐวุฒิเองมีความคุ้นเคยกัน มีเข้าใจผิดกันบ้าง กระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องปกติ และที่สำคัญเมื่อจบก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้มีติดใจอะไรกัน และเชื่อว่าไม่นำไปสู่ปัญหาทางการเมือง เพราะเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการเมือง
นายวราวุธ กล่าวตอบคำถามว่าถึงเหตุการณ์ที่เหมือนมีการทำร้ายร่างกาย ว่า ช่วงเกิดเหตุการณ์ตนอยู่บนบัลลังก์ แต่เท่าที่ทราบคือ ไม่มีอะไรอย่างนั้น ส่วนการที่คนไปรุมกันเยอะ คือไปกันเอาไว้ เวลามีอะไรจะได้กันแยกย้ายกันออกมา เพราะกลัวว่าหากอารมณ์ร้อนกันทั้งคู่ จึงเข้าไปแยกย้ายห้ามปรามกันเท่านั้น ไม่ได้มีอะไร
"ทุกอย่างปกติ ไม่ได้มีอะไร เหมือนปกติทุกอย่าง ไม่ได้มีอะไรเลย ผมคุยกับคุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว ผมมองว่าเป็นแค่เหตุการณ์หนึ่งเท่านั้น" นายวราวุธ
รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวขอบคุณ ส.ส. ที่ลงมติสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบฯ66 และเมื่อตั้งคณะกรรมาธิการแล้ว ต้องเข้าการพิจารณาในวาระสองต่อไป และเชื่อว่าอีก 1 เดือนเศษจะเข้าสู่การพิจารณาวาระสาม ดังนั้นต้องทำงานหนักเพื่อให้ร่างพ.ร.บ.งบฯ66 ผ่านการพิจารณา
"พรรคชาติไทยพัฒนามาครบ 12 คน ซึ่งต้องขอขอบคุณสมาชิกทุกคน เพราะบางคนอยู่ในอาการเจ็บป่วยที่ไม่สะดวกมาแต่ก็มา เพราะเห็นความสำคัญในการลงคะแนน ส่วนกรณีงูเห่าของพรรคอื่นนั้น ผมตอบแทนไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน หรือว่ามีความสัมพันธ์ส่วนตัว" นายวราวุธ กล่าว
เมื่อถามว่า เมื่อเห็นเสียงรัฐบาล ครั้งนี้แล้วสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจไปถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องดูเป็นกรณีๆไป เมื่อจบการอภิปรายงบประมาณแล้ว สมาชิกแต่ละคนอาจมีความเห็นแตกต่างกันไประหว่างงบประมาณกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่สามารถนำมาวัดกันได้ ต้องคอยติดตามดูกันไป แต่อย่างน้อยก็เป็นความอุ่นใจว่ามีส.ส. จำนวนหนึ่งที่มีความคิดเห็นในทางที่เรียกว่าสนับสนุนและเห็นคล้องกับรัฐบาลซึ่งก็เป็นที่น่ายินดี
"การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ฝ่ายค้านคงจะระดมสรรพพักกำลังที่มีในการที่จะตั้งข้อสังเกตและอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อฝ่ายค้านทำการบ้านหนัก รัฐบาลเองก็คงต้องทำการบ้านหนักไม่แพ้กัน แต่ขณะเดียวกันก็แน่นอนว่าประมาทไม่ได้ เพราะมีการลงคะแนนมีการอภิปรายทุกครั้งเป็นความสุ่มเสี่ยงทุกครั้งที่ประมาทเมื่อไหร่ก็ร่วงเมื่อนั้น" นายวราวุธ กล่าว.