“ชัชชาติ”ประชุมผู้บริหาร กทม.นัดแรก หารือถอดหน้ากากอนามัยที่โล่ง

“ชัชชาติ”ประชุมผู้บริหาร กทม.นัดแรก หารือถอดหน้ากากอนามัยที่โล่ง

“ชัชชาติ”ประชุมผู้บริหารกทม.นัดแรก-จับตาหารือถอดหน้ากากอนามัยที่โล่งแจ้ง พร้อมสั่งการให้ถอดบทเรียนโควิด ปรับโครงสร้างระบบสาธารณสุข จ่อหารือ "อนุพงษ์" แก้ไขปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว

เมื่อเวลา 09.00น. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานครนัดแรก โดยมี รองผู้ว่ากทม. ทั้งนายวิศณุ ทรัพย์สมพล นายจักกพันธุ์ ผิวงาม ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ เข้าร่วมประชุมครบทุกคน รวมถึงที่ปรึกษาผู้ว่ากทม. และเลขานุการผู้ว่า กทม.ด้วย

โดยการประชุมวันนี้ ประเด็นสำคัญ ต้องจับตาไปที่การหารือ ถึงการถอดหน้ากากอนามัย ว่าจะมีความชัดเจนว่าจะถอดได้ในสถานการณ์แบบไหนอย่างไร  ซึ่งระหว่างการประชุม นายชัชชาติ มีการสอบถามที่ประชุมว่า ควรไม่ต้องใส่หน้ากากในที่โล่งแจ้งหรือยัง
 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ สำนักการแพทย์ ระบุว่า ในมุมมองของทางการแพทย์ ทางกระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างวางแผนอยู่แล้ว ว่าจะถอดหน้ากากอนามัยในที่โล่งแจ้ง และที่สาธารณแบบไหน และถ้าถอดแล้วต้องมองภาพ เว้นระยะห่างด้วย ซึ่งต้องดูตัวเลขความรุนแรงของการป่วย ปัจจุบันตัวเลขผู้ป่วยโควิดของกทม.1400-1500 คน/วัน ถ้าหาก ในพื้นที่กทม.น้อยกว่า500คนต่อวัน ก็พอจะต่อรองกับกระทรวงสาธารณสุข ให้เสนอศบค. ให้ถอดหน้ากากได้หรือไม่

ต่อมานายชัชชาติ ยังสอบถามถึงการการแพร่ระบาดโรคฝีดาษลิง การติดต่อ และการป้องกัน เพื่อจะนำข้อมูลมาทำความเข้าใจประชาชน โดยเฉพาะกรณีที่มีการจัดงานไพรด์เมื่อวานนี้ ซึ่งที่ประชุมชี้แจงว่า ในขณะจัดงานสิ่งที่เป็นห่วงคือการแพร่ระบาดโควิดมากกว่า ส่วนการิดต่อฝีดาษลิง คือ หลังจากจัดงานแล้วมีการไปปาร์ตี้กันต่อ

ทั้งนี้ นายชัชชาติ ให้มีข้อสั่งการในที่ประชุมด้วยว่า บทเรียนของโควิด เป็นบทเรียนสำคัญ และจากการลงพื้นที่ของตนเองมากกว่า2ปี พบ ปัญหาการประสานงานสำคัญ จึงอยากให้นำบทเรียนจากโควิดมาปรับโครงสร้างระบบสาธารณสุขใหม่ ว่าควรมีศูนย์ประสานงานหรือไม่อย่างไรด้วย

“ชัชชาติ”ประชุมผู้บริหาร กทม.นัดแรก หารือถอดหน้ากากอนามัยที่โล่ง “ชัชชาติ”ประชุมผู้บริหาร กทม.นัดแรก หารือถอดหน้ากากอนามัยที่โล่ง

ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้มีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2565 เรื่องเรียกประชุมสภากรุงเทพมหานครครั้งแรก โดยมีรายละเอียดดังนี้ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) จำนวน 50 เขตเลือกตั้ง บัดนี้การเลือกตั้งได้เสร็จสิ้น และได้ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ก. จำนวน 45 เขตเลือกตั้งแล้วนั้น จึงเรียกประชุมสภา กทม. เพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก ในวันที่ 6 มิถุนายน เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมสภา กทม. อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดินแดง

ต่อมา นางอุบลรัตน์ จิพยัคฆ์ เลขานุการสภา กทม. ได้ทำหนังสือเชิญ ส.ก.ทั้ง 45 คน เข้าประชุมสภา กทม.ครั้งแรก พร้อมแจ้งว่าในส่วนของ ส.ก.คงเหลืออีก 5 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขตพญาไท เขตสายไหม เขตห้วยขวาง เขตดินแดง และเขตวังทองหลาง

สำหรับระเบียบวาระการประชุมสภา กทม.ครั้งแรก วาระที่ 1 รมว.มหาดไทย กล่าวเปิดการประชุม วาระที่ 2 เลขานุการสภา กทม.เชิญ ส.ก.ผู้ที่มีอายุสูงที่สุดทำหน้าที่ประธานชั่วคราว วาระที่ 3 ประธานชั่วคราวกล่าวนำปฏิญาณตน วาระที่ 4 เลือกประธานสภา กทม. วาระที่ 5 เลือกรองประธานสภา กทม. วาระที่ 6 กำหนดจำนวนสมัยประชุมสามัญ และวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปี พ.ศ.2566 วาระที่ 7 เลือกตั้งกรรมการตรวจรายงานการประชุม และวาระที่ 8 เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

สำหรับการกำหนดการประชุมสภา กทม.ครั้งแรก นอกจากนี้ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และบรรดา ส.ก.ทั้ง 45 คน แล้ว ยังมีคณะผู้บริหาร กทม.ฝ่ายการเมือง และฝ่ายข้าราชการประจำ ประกอบด้วย นายชัชชาติ และรองผู้ว่าฯกทม. ทั้ง 4 คน นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม. และรองปลัด กทม.เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภา กทม. นัดแรกวันนี้ จะมีวาระการเลือกประธานสภา กทม. และรองประธานสภา กทม. 2 คน โดยรายชื่อ ส.ก.ที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานสภา กทม. คือ นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี พรรค พท. น้องชายนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.พรรค พท. ขณะที่รองประธานสภา กทม.คนที่ 1 จะเป็น นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ส.ก.เขตคันนายาว พรรค พท. ภรรยานายพลภูมิ ส.ส.กทม. พรรค พท. ส่วนรองประธานสภา กทม.คนที่ 2 จะเป็น ส.ก.จากพรรค ก.ก.

ส่วนตำแหน่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ของสภา กทม. จะมีการจัดสรรไปตามสัดส่วน ส.ก.ของพรรคที่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งพรรค พท.ได้รับเลือกตั้ง ส.ก. 20 ที่นั่ง ขณะที่พรรค ก้าวไกลได้รับเลือกตั้ง ส.ก. 14 ที่นั่ง ส.ก.ของสองพรรคถือว่าได้ที่นั่งเกินครึ่งของสภากทม.