"ปธ.วิปรัฐบาล" เย้ย "ฝ่ายค้าน" ไม่มีทางจัดงบ66 ให้ดีกว่า

         นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)  ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา  ต่อกรณีพรรคฝ่ายค้านโจมตีต่อการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน ตามร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ว่าแบ่งเค้กให้พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้นำไปใช้หาเสียงเลือกตั้ง ว่า เป็นการให้ร้ายรัฐบาล เพราะไม่เป็นความจริง เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันจัดงบกระจายไม่กระจุก ตนฐานะส.ส. ยืนยันได้ว่าจัดงบกระจายไปทุกภูมิภาค 

 

         นายนิโรธ กล่าวด้วยว่า สำหรับการลงมติวาระแรกของร่างพ.ร.บ.งบฯ66 นั้นตนไม่ขอวิจารณ์ เพื่อให้เกียรติฝ่ายค้าน  แต่กรณีที่ส.ส.ฝ่ายค้านตำหนิประเทศไทย ตำหนิรัฐบาล และพรรคการเมืองอื่น ตนคิดว่าคนเหล่านั้นไม่เคยหันกลับไปดูตัวเองหรือพรรคของตัวเอง ลักษณะอาการแบบนี้เขาเรียกว่าอาการของผู้ผิดหวังจากการจะเข้ามาแสวงอำนาจในการบริหารประเทศ 

 

            "พรรคร่วมรัฐบาลประสานเสียงเนื่องจากเห็นว่าเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจะต้องนำไปบริหารประเทศเพื่อดูแลประชาชน โดยเฉพาะเงินเดือนของข้าราชการและบำเหน็จ บำนาญของผู้ที่เกษียณอายุราชการเพราะกว่าจะได้รับบำเหน็จบำนาญมีขั้นตอนต่างๆมากมายต้องรอ 15 - 25ปี ถึงจะได้รับ" นายนิโรธ กล่าว 

 

       เมือถามถึงผลการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี66 จะทำให้รู้สึกเบาใจหรือไม่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนิโรธ กล่าวว่า ตนบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าพวกนั้นเขาก็แห่นางแมวไปเรื่อย เพื่อขอฝนแต่ฝนก็ไม่ตกรอบนี้ก็เหมือนกัน ทั้งนี้การแห่นางแมวเป็นพิธีโบราณที่คนแห่จะต้องมีจิตใจที่บริสุทธิ์และสุจริตเพื่อขอฝนจากฟ้าดังนั้นหากจิตใจไม่สุจริตไม่ถือศีลก็ไม่ประสบผลสำเร็จ

 

          “ติติงไปเรื่อย ว่ารัฐบาลไปเรื่อย ผมคิดว่าเรื่องงบประมาณถ้าฝ่ายค้านมาเป็นรัฐบาลในขีดจำกัดของภาวะเศรษฐกิจโลก ภาวะโควิดและภาวะรายได้ที่ประเทศจัดเก็บมันก็เก็บได้เท่านี้ ไม่ใช่รัฐบาลไปขูดรีดภาษีชาวบ้าน ซึ่งงบรายได้จัดเก็บมามีแค่นี้ รายจ่ายก็มีแบบนี้ และงบลงทุนก็ต้องกู้มา หากฝ่ายค้านเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ไม่สามารถจัดงบประมาณให้ดีกว่านี้ ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้ไลฟ์สดการประชุมกรรมาธิการเพื่อป้องกันการตบทรัพย์ ผมยืนยันว่าไม่มี พูดกันไปเรื่อยยืนยันว่าไม่มีประเด็นนี้แน่นอนเป็นการพูด ดาวน์เกรดรัฐบาลและพรรคการเมือง” นายนิโรธ กล่าว

        เมื่อถามกรณีที่พรรคก้าวไกลอภิปรายงบประมาณในการตรวจสอบ GT200 นายนิโรธกล่าวว่า เรื่อง GT200 เป็นเรื่องที่ขึ้นศาลโดยศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้ฝ่ายบริษัทผู้ผลิตชดใช้เงินให้ทางราชการซึ่งตนเข้าใจว่าการตั้งงบให้ตรวจสอบคงค้างท่อมาจากตอนการสู้กันในชั้นศาลดังนั้นประเด็นอยู่ที่ว่า เรื่องGT200 มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้หรือไม่และเป็นประเด็ยสำคัญที่จะแพ้ ชนะคดี จึงต้องมีการพิสูจน์ว่าเครื่องดังกล่าวสามารถใช้ได้หรือไม่ จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อเป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลซึ่งการตั้งงบประมารต้องตั้งตั้งแต่ต้นทางพอจู่ๆจะมาจัดงบประมาณเลยคงทำไม่ได้ซึ่งสุดท้ายแล้วในชั้นกรรมาธิการสามารถตัดงบประมาณได้ไม่มีปัญหาอะไร

 

            เมื่อถามย้ำว่าถ้าหากไม่จำเป็นสามารถตัดงบออกได้เลยหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ใช่ และไม่ต้องไปกังวลประเด็นนี้ 

 

            เมื่อถามว่าแต่ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาสาพร้อมทำให้ฟรี นายนิโรธ กล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ต้องเป็นหน่วยงานที่จะต้องเชื่อถือได้ มีองค์กรรับรองจึงจะต้องนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลได้ พร้อมย้ำว่า ประเด็นนี้ไม่มีปัญหา หากเข้าสู่การพิจารณาของกรรมาธิการสามารถตัดได้ ถ้ามันขาดความจำเป็นแล้ว