สยบเกาเหลา "3ป." แพ็กพี่น้อง ออกงาน "นายกฯ" ฝากประเทศกับทุกคน
"3ป." ควงแขน ออกงาน เปิดโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ชี้ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ "นายกฯ" เผย เห็นคนแต่งตัวสวย ชื่นใจ ย้ำ ถ้าไม่รัก-ร่วมมือกัน ไปไม่ได้ รับ ต้องปรับตัว บางทีก็เครียด ฝากประเทศไทยไว้กับทุกคน ย้ำ จะทำให้ดีที่สุด
ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมพิธีเปิดโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สร้างโอกาสด้านอาชีพ สร้างสรรค์บทบาทสตรี สู่ความเข้มแข็งในชุมชน
โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ทั้ง 3 ป.ได้เดินทักทายผู้มาร่วมงานอย่างอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส และเป็นกันเอง โดยนายกรัฐมนตรีได้โชว์สัญลักษณ์ ไอเลิฟยูให้กับผู้ที่มาร่วมงาน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขออนุญาตถอดหน้ากากเน้อ จะได้เห็นหน้ากันชัดๆ พร้อมกับกล่าวว่า สตรีถือว่ามีบทบาทการขับเคลื่อนร่วมกันในประเทศชาติของเรา มีบทบาทสำคัญในการดูแลครอบครัวจะเห็นได้ว่าสตรีมีบทบาทสำคัญ ในหลากหลายวงการทั้งในด้านสังคมเศรษฐกิจการเมือง เพราะฉะนั้นแสดงให้เห็นว่าสังคมได้ให้โอกาสสตรีในการเข้าถึงและยอมรับความสามารถสตรีมากยิ่งขึ้น กล่าวได้ว่าสตรีเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จในหลายๆเรื่อง อยู่ทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า วันนี้เท่าเทียมกันอยู่แล้วตนต้องกล่าวชื่นชมบทบาทสตรีในฐานะที่ตนเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ผู้หญิงมีภารกิจมาก ภารกิจที่สำคัญยิ่งคือหน้าที่ในการเป็นภรรยา หน้าที่ในการเป็นแม่ของลูก และการประกอบการ การหารายได้เพิ่มเติมให้กับครอบครัว เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจและเห็นใจบรรดาสตรีที่รับบทบาทหนัก ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าไม่ใช่เบื้องหน้าเบื้องหลังต้องไปด้วยกันร่วมมือกันให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่เราทำกันได้อยู่แล้วตั้งแต่เรื่องครอบครัวชุมชน หากให้เกียรติซึ่งกันและกันเราไปได้แน่นอน
นายกฯ กล่าวว่า เห็นทุกคนแต่งตัวสวยๆ มาก็ชื่นใจ นานๆ จะได้พบคน พร้อมๆ กันทุกภาคทุกจังหวัดในวันนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญและพยายามที่จะสร้างโอกาสให้สตรีได้มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมในทุกด้าน โดยรัฐบาลมุ่งเน้นยกระดับในการสร้างโอกาสสตรีให้ย้อนกลับไปจะเห็นได้ว่าบรรจุไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี วันนี้โลกมีความ ท้าทายเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอนจะเห็นได้จากสถานการณ์ในวันนี้ซึ่งมีหลายอย่างผสมผสาน มีความซับซ้อน อ่อนไหวและไม่แน่นอน รวมไปถึงมีความเสี่ยงเราจะพร้อมเผชิญหน้าสิ่งเหล่านี้อย่างไร ก็ด้วยพลังของคนไทยทุกคน เพื่อเดินหน้าประเทศของเราไปยังโลกยุคใหม่ โลกแห่งเทคโนโลยีและดิจิทัล หรือได้กำหนดบทบาทของรัฐบาลและประเทศไว้แล้วในการที่จะเดินทางประเทศไทยไปสู่สังคม 4.0
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องคิดเรื่องที่เป็นสาระว่าจะไปอย่างไร จะเดินหน้าไปอย่างไร โลกไปถึงไหนแล้ว ท้องถิ่นเป็นอย่างไร มีอะไรที่พูดจายังไม่เข้าใจกันหรือไม่ เราต้องจับมือกันเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ตนขอบคุณ ที่เป็นคำมั่นสัญญาในจะดูแลให้ดีที่สุด ให้มากที่สุด โดยเฉพาะรัฐบาลทุกพรรคร่วม ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับทั้งหมด มีทั้งงานพันธกิจ งานบูรณาการ ช่วยเหลือเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งข้าราชการทุกคนขอให้ทำงานในลักษณะที่เป็นการปรับเปลี่ยนการปฏิรูปการทำงานก็ทำไปหลายอย่างแล้ว ต้องทำความเข้าใจกันให้ได้มากยิ่งขึ้นในสิ่งที่ทำกันใหม่ๆ การปฏิรูปคือการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงในสิ่งที่ดีขึ้น ไม่ว่าหลายอย่างสังเกตว่ามีอะไรดีขึ้นมาแล้ว แม้ว่าในประเทศไทยหลายคนก็มองว่าตัวเองยังลำบาก แต่ก็ต้องมองว่าโอกาสเกิดขึ้นบ้างแล้วหรือยัง ต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง ให้ทุกอย่างจะเป็นโอกาสให้กับทุกคน ไปข้างหน้ารัฐบาลจะสร้างโอกาส รัฐบาลพยายามสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐการดำเนินความสะดวก หากย้อนกลับไปดูพบว่าเปลี่ยนไปมากในวันนี้ โดยเฉพาะการดำเนินการเดินหน้าเชื่อมโยง หลายอย่างเราต้องลงตัวเองหลายอย่างต้องให้เขาทำตัวเอกชนร่วมลงทุนเนื่องจากแหล่งรับทั้งหมดไม่ไหว วันนี้ก็มีภาคเอกชนต้องการร่วมลงทุนกับรัฐกับท้องถิ่นก็พยายามจะปลดล็อคตรงนี้ให้ได้มากที่สุดแต่ต้องระมัดระวัง หากเราไม่รักไม่ร่วมมือกันอะไรก็ไปไม่ได้ทั้งหมด
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ตนพยายามปรับตัว แต่ยอมรับว่าบางทีก็เครียด แต่ในวันนี้ไม่เครียด ไม่เครียดเพราะเห็นรอยยิ้มของพวกเราสไมล์ รอยยิ้มสยาม
ตนก็ต้องพยายามยิ้มให้มากขึ้น ก่อนที่จะย้ำว่าขอให้รักกันให้มากๆ เพราะความสุขในครอบครัวก็จะขยายออกมาข้างนอก อยากให้ทุกคนช่วยกันคิดช่วยกันทำ ช่วยกันแก้ไขปัญหาเพราะปัญหาคนเราเยอะพอสมควรแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า ก่อนที่ตนจะเดินทางมา ตนคิดก่อนว่าจะมาพูดอะไร ผู้หญิงที่เยอะขนาดนี้ เพราะที่บ้านมีเพียง 3 คนภรรยาและลูก มาที่นี่มาเจอเป็นร้อยคนมาเพื่อให้เกียรติให้กำลังใจทุกคนแล้วขอให้ช่วยกันนำพา เขาเคยบอกกันว่าช้างมี 4 ขา วันนี้ช้างจะเดินไปอย่างไรที่จะเดินไปพร้อมๆกัน แต่จะต้องมั่นคงในทางธรรมชาติ แม้ว่าทางหลักสรีระเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องนำหลักความคิดเข้ามา เนื่องจากสตรีมีความละเอียดอ่อน มีความรอบคอบระมัดระวัง แต่ผู้ชายมีความเด็ดเดี่ยว อันไหนดีก็สนับสนุนกันไป จะได้ไปด้วยกัน
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือความสงบสุขในครอบครัว ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด เพื่อไม่ให้สังคมของเราเสียหาย เมื่อครอบครัวเสียหายก็จะทำให้ชุมชนสังคมเสียหายตาม ท้ายที่สุดประเทศชาติต้องรับความเสียหายเหล่านั้น ตนจึงขอฝากทุกคนไว้ด้วย ฝากประเทศไทยไว้กับทุกคนเรามีสถาบันหลักของชาติ 3 อย่าง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารักษากันเอาไว้นานมากแล้ว และเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา ขอให้เดินไปอย่างนี้ อย่างน้อยก็มีศูนย์รวมเป็นจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ในการที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน เราจะต้องค่อยๆปรับเปลี่ยนแก้ไขทำให้ดีขึ้น วันนี้ตนไม่เคยหยุดคิด รัฐบาลไม่เคยหยุดคิด มีหลายร้อยเรื่องที่ต้องทำแต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไปให้ทั่วถึงทุกจังหวัดทุกกลุ่มให้ได้ อย่างต่อเนื่อง
นายกฯ กล่าวว่า ซอฟพาวเวอร์ โดยเฉพาะรอยยิ้มที่เราต้องยิ้มให้กันมากๆแล้วทุกอย่างจะผ่อนคลายไปเอง บางทีตนเองก็เครียดบ้างอะไรบ้าง แต่วันนี้ไม่เครียดอะไรเลย เพราะเห็นรอยยิ้มจากผู้ที่มาร่วมงาน เป็นยิ้มสยามประเทศไทยเป็นประเทศเดียว ถ้าไม่รัก ไม่ร่วมมือกันก็ไปไม่ได้หมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการร่วมงานวันเดียวกันนี้ 3ป. มาร่วมงานอย่างพร้อมเพียงกันท่ามกลางกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า นายกรัฐมนตรีจะมานั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แทนพลเอกประวิตร จนพลเอกประวิตรต้องออกมาปฏิเสธ และยืนยันความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ป.โดยกล่าวย้ำในที่ประชุมแกนนำพรรค ว่า รักกันดีกับพลเอกประยุทธ์ อย่าให้ใครมาเสี่ยมให้แตกกันไม่มีทาง