“ก้าวไกล” ขอสภาฟังเสียง ปชช. ผ่านร่าง “สมรสเท่าเทียม” ปูดวิปรัฐบาลส่อไม่รับ

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2565 นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนผู้มีความหลากหลายเพศ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ พ.ศ. … หรือร่างพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม กล่าวถึงจากกรณีที่ เมื่อเย็นวันที่ 13 มิ.ย. 2565 มติคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ( วิปรัฐบาล ) ต่อร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ พ.ศ. … หรือ ร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่จะเข้าสู่การพิจารณาในประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธที่ 15 มิถุนายนนี้ มติคือไม่รับหลักการนั้น 

นายธัญวัจน์ กล่าวว่า เมื่อมีมติออกมาเช่นนี้ รัฐบาลก็ต้องมีเหตุผลชี้เเจงต่อประชาชนว่าเหตุใดจึงไม่สามารถรับหลักการได้ และกรมคุ้มครองสิทธิ์ กระทรวงยุติธรรม และสำนักกฤษฎีกาต้องมาอธิบาย ต้องมาชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันพุธนี้ ให้ผู้แทนราษฎรและประชาชนได้รับทราบว่าเหตุใดจึงไม่รับหลักการต่อร่างสมรสเท่าเทียม 

นายธัญวัจน์ กล่าวต่อไปว่า ร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ถูกยื่นเข้าสู่สภาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ในเดือนPrideMonth ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นที่มีผู้มามาให้ความเห็นมากที่สุดกว่า 5 หมื่นคน ประชาชนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศต่างเฝ้ารอเข้าสู่การประชุมสภาด้วยความหวัง สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นในสภาชุดนี้ได้เนื่องจากเรื่องเพศเป็นเรื่องของทุกคน และทุกพรรคการเมืองสามารถขับเคลื่อนไปด้วยกันได้ แต่จากมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ( 13 มิ.ย. 63 ) น่าผิดหวังอย่างมาก

“ขอเรียนผู้แทนราษฎรทุกท่าน ว่าผู้แทนราษฎรทุกท่านล้วนแล้วแต่มีเอกสิทธิ์ สามารถตัดสินใจในการลงมติด้วยตนเองได้ ถึงแม้วิปรัฐบาลมีมติไม่รับร่างดังกล่าว แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเห็นด้วยกับมติของวิปรัฐบาล   ตัวอย่างร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล มติคณะรัฐมนตรีงั้นก็ไม่รับหลักการเช่นกัน แต่ก็สามารถโหวตผ่านวาระหนึ่งมาได้” นายธัญวัจน์ กล่าว

นายธัญวัจน์ กล่าวด้วยว่า วันนี้สมรสเท่าเทียมไม่ใช่เป็นเรื่องของความเสมอภาคทางเพศเพียงอย่างเดียว แต่คือการต่อสู้ที่ปฏิเสธการยัดเยียดสิ่งที่ประชาชนไม่ต้องการจากผู้มีอำนาจ เป็นบทพิสูจน์ของพรรคการเมืองที่บอกว่าสนับสนุนบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ โอกาสที่ท่านจะพิสูจน์มาถึงแล้ว อย่าเกรงกลัวอำนาจ หากท่านทำเพื่อประชาชน ประชาชนจะเห็นเอง

“หากท่านเป็นผู้แทนราษฎรที่ยึดมั่นในหน้าที่ ทุกท่านคงได้ยินเสียงของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศว่าพวกเขาไม่เอาร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต ท่านต้องตอบคำถามกับตนเองว่าท่านจะเล่นเกมการเมืองท่ามกลางการรอคอยของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือจะลงมติรับร่างให้พวกเขาด้วยความจริงใจ ให้เดือน #PrideMonth2022  เป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจและฉลองชัยด้วยสมรสเท่าเทียม อย่าให้ประชาชนสิ้นหวังในกลไกรัฐสภา เราคือผู้แทนของประชาชน” นายธัญวัจน์ กล่าว